แม่สุดเศร้ารับศพลูกชายที่อำนาจเจริญ บอกคาดไม่ถึงว่าน้องชายที่เป็นน้าแท้ๆ จะฆ่าหลานตายได้ ขณะที่ผู้ต้องหายังเครียดจัดให้การไม่ได้ เล็งส่งไป รพ.พระศรีมหาโพธิ์ ส่วนคดี ตร.เตรียมออกหมายจับ
เมื่อวันที่ 9 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีน้าชายสุดโหดฆ่าฝังดินหลานชายแท้ๆ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านในพื้นที่ หมู่ 2 บ้านโคกสูง ต.นาผือ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ที่เป็นบ้านของ นายระพิน ทองมหา อายุ 40 ปี (ผู้เสียชีวิต) นางอรอินทร์ ทองมหา อายุ 60 ปี แม่ของนายระพินผู้เสียชีวิต และเป็นพี่สาวแท้ๆ ของ นายสมชาย ชลแดง อายุ 50 ปี ผู้ก่อเหตุ
นางอรอินทร์ กล่าวด้วยความโศกเศร้าว่า ปกตินายระพินลูกชายของตนจะอยู่ที่บ้านหลังนี้กับตนเอง เนื่องจากสามีได้เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีแล้ว ก่อนหน้านี้นายระพิน เคยเป็นเซลส์ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่หลังจากเลิกรากับภรรยา นายระพินก็ลาออกจากงานมาอยู่กับแม่ที่บ้าน และหาทำงานรับจ้างทั่วไป ก่อนเกิดเหตุตนเองไปปฏิบัติธรรมอยู่กับหลานชานซึ่งบวชเรียนอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี นายระพินผู้ตายจึงอยู่บ้านเพียงลำพัง คาดว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายคงเหงาและคิดถึงญาติพี่น้อง จึงเดินทางไปเยี่ยมยายที่บ้านหลังเกิดเหตุ แต่เนื่องจากนายระพิน และนายสมชาย (ผู้ก่อเหตุ) ทั้งคู่ เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน
แม่ของผู้ตาย กล่าวต่อว่า นายระพิน มีนิสัยชอบดื่มสุราแต่ก็ไม่เคยมีเรื่องระรานใคร ไม่เคยก่อเหตุทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ชาวบ้านในหมู่บ้านส่วนใหญ่จะรู้ดี แต่เวลาเมาแล้วนายระพินมักจะเป็นคนพูดมาก ชอบพูดจาตลกให้คนอื่นหัวเราะ ส่วนนายสมชายผู้ก่อเหตุเคยมีประวัติการรักษาอาการทางประสาทมาก่อน เมื่อนายระพินเมาจึงมักจะมีปากเสียงกันเป็นประจำ และเคยลงมือใช้มีดฟันหัวนายระพินมาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากนั้นจึงห้ามไม่ให้นายระพินไปที่บ้านหลังเกิดเหตุอีก แต่นายระพินก็ไม่ฟัง กระทั่งมาเกิดเรื่องขึ้นอีก
“เมื่อทราบข่าวว่าลูกชายถูกฆ่า ตนเองเสียใจมาก ลูกสะใภ้และหลานชายจึงรีบเดินทางไปรับกลับมา แต่ก็ไม่คาดคิดนายสมชายจะถึงขั้นลงมือฆ่า ถึงจะทะเลาะกันยังไงก็เป็นญาติกัน ส่วนตัวสงสัยว่านายสมชายคงจะอาการกำเริบจึงควบคุมตัวเองไม่อยู่” นางอรอินทร์ กล่าว
ขณะเดียวกัน มีรานยงานว่า นายสมชาย ผู้ก่อเหตุยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอำนาจเจริญ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บมีรอยถูกมีดฟันที่แขนซ้ายและที่คอ 1 แผล ประกอบกับแพทย์ให้เฝ้าดูอาการทางจิตเวช เพราะตั้งแต่ถูกควบคุมตัวมา นายสมชายยังอยู่ในอาการเครียดจนไม่สามารถให้ปากคำกับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เบื้องต้นทางแพทย์เตรียมที่จะส่งตัวนายสมชายไปรักษาที่โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่รักษาผู้ป่วยทางจิตเวชโดยตรง
ส่วนความคืบหน้าทางคดีความ ล่าสุด พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ ได้ขออำนาจศาลออกหมายจับนายสมชาย แต่เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังอยู่การรักษาของแพทย์ จึงจำเป็นต้องให้แพทย์รักษาจนกว่าจะหายดี และสามารถให้ปากคำได้จึงทำการควบคุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป.
