วันพฤหัสบดี ที่ 06 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 15.06 น.
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID 19) ยังไม่ดีขึ้น หลายจังหวัดยังคงพบผู้ติดเชื้อ โควิด 19 อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การทำมาหากิน ไม่ปกติ เดือดร้อนกันถ้วนหน้า
สำหรับจังหวัดอำนาจเจริญ ถือว่า โชคดี พบผู้ป่วย โควิด 19 ไม่มาก ซึ่งวันนี้( 6 พ.ค.64) ผู้ป่วย 0 ราย ผู้ป่วยยืนยันระลอก 3 ( 1 เม.ย.64 เป็นต้นไป) จำนวน 40 ราย และเสียชีวิต 0 ราย เพราะประชาชนชาวอำนาจเจริญ ยกการ์ดสูงอยู่ตลอดเวลา
ถึงแม้หลายคน ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) ไปตามๆกัน ทว่า การเพาะเลี้ยงหนูนา ขาย กลับ ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจาก มีลูกค้าสั่งซื้อ อย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้ดีระดับหนึ่ง
อย่างเช่น นายประยูร ทิพย์รัตน์ ยึดอาชีพ ทำนาปลูกข้าว มาหลายชั่วอายุคน จนกระทั่งปัจจุบัน ไม่เคยได้สัมผัสเงินล้าน บางปีฝนตกดี ผลผลิตข้าวได้เต็มที่ พอมีกำไร ได้เงินหลักหมื่นบาท และนับว่า โชคดีแล้ว ที่ขายข้าวได้กำไร โดยไม่ขาดทุน
เพราะสภาพดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลง ฝนไม่ตกตามฤดูกาล เหมือนแต่ก่อน อย่างปีที่ผ่านมา ฝนตกกระหน่ำอย่างหนัก ไม่นาน ฝนหาย และหมดไป หลายคน นาข้าวเสียหายเพราะถูกน้ำท่วม และมีจำนวนไม่น้อย ฝนไม่ตก เรียกว่า ฝนตกไม่ทั่วฟ้า แห้งแล้ง ไม่ได้ทำนาก็มี
จึงต้องมีการมองหาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ โดยการเรียนรู้จาก การเพาะเลี้ยงหนูนา ทาง ยูทูบ ผ่านบุตรชาย ป้อนความรู้ ศึกษา การเพาะเลี้ยง จนเข้าในดี และทำการเพาะเลี้ยง ถึงแม้จะเป็นเพียงการเริ่มต้น ถือว่า เป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะตลาดรองรับไม่อั้น โกยเงินเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว
นายประยูร ทิพย์รัตน์ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 4 บ้านคำสร้างบ่อ ต.น้ำปลีก อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ชาวนาผู้หารายได้เสริมจากการเลี้ยงหนูนา เล่าว่า ทำนาปลูกข้าวอยู่ จำนวน 15 ไร่ ปลูกทั้งข้าวเหนียวและข้าวจ้าว บางปีฝนตกไม่ดี ก็ลดจำนวนปลูกข้าวน้อยลง พอได้มีข้าวกิน กำไรบางส่วนให้ค่าปุ๋ย และค่าแรงงาน ส่วนปีที่ผ่านมา ฝนตกดีมาก เหลือจากเก็บไว้กิน ก็จะขาย ได้กำไรหลักหมื่นบาท แต่ไม่ถึงหลักแสนบาท
นายประยูร ทิพย์รัตน์ ผู้ยึดอาชีพชาวนาปลูกข้าวมานาน กล่าวว่า ถึงจะอยู่ในฤดูทำนา หากว่าง ก็จะมองหาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ โดยการเลี้ยงวัว เพื่อขาย ทำได้ไม่นาน ขาดทุน จึงหยุดเลี้ยงวัวขาย
ต่อมา บุตรชาย ซึ่งทำงานอยู่กรุงเทพมหานคร ทราบจาก ยูทูบ เรื่องการเลี้ยงหนู ถือว่า เป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าสนใจ ทำเงินให้กับ ครูสอนนักเรียนรายหนึ่ง ที่ จ.ร้อยเอ็ด โกยเงินกระเป๋าตุง เกิดความสนใจ จึงศึกษา เรียนรู้ ขั้นตอน วิธีการเลี้ยงหนูนา ซึ่งลองผิดลองถูกอยู่หลายเดือน จนมั่นใจว่า เลี้ยงเองได้
จากนั้น ทำการก่อสร้างโรงเรือน 1 โรงเรือน ภายในโรงเรียนทำบ่อเลี้ยงหนู 2 แบบ คือ แบบบ่ออิฐบล็อก สูง 1 เมตร กว้าง 1.20 เมตร ยาว 6 เมตร จำนวน 2 บ่อ เรียกว่า บ่อพัก รอขาย ที่พื้นบ่อลาดซีเมนต์ให้เรียบ วางท่อไม้ไผ่ขนาดยาว 1 เมตร ซึ่งเป็นรู จำนวน 2 ท่อ เพื่อเป็นรูให้หนูนาอาศัยอยู่ โรยด้วยหญ้าเต็มพื้นที่ และให้ข้าวเปลือกกิน เฉพาะช่วงเย็น ส่วนที่ด้านข้างบ่อ จะเจาะเป็นรู เติมน้ำ ไว้ให้หนูนาได้ดื่มกินตลอดเวลา และที่ ปากบ่อปิดด้วยตาข่ายเหล็ก กันหนูนาออก
สำหรับแบบบ่อท่อซีเมนต์ ใช้ท่อซีเมนต์วางทับซ้อนกัน 2 ท่อ เรียกว่า บ่ออนุบาล ส่วนพื้นล่างบ่อท่อซีเมนต์ รองด้วยฝาท่อซีเมนต์ โปรยด้วยแกรบและหญ้าให้ทั่วบริเวณ ให้อาหารคือเมล็ดข้าวเปลือกเฉพาะตอนเย็น ต่อมา ปล่อยหนูนาพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ลงไปในบ่อท่อซีเมนต์ ในอัตราส่วน หนูนาเพศผู้ 1 ตัว/เพศเมีย 4 ตัว เพื่อทำการผสมพันธุ์ โดยใช้เวลา 4 เดือน หนูนาจะโตเต็มวัย ส่วนปากบ่อปิดด้วยสังกะสี
ซึ่งหนูนาโตเต็มวัย ก็จะนำไปปล่อยลงบ่ออิฐบล็อก เพื่อรอจำหน่าย ในราคากิโลกรัมละ 250 บาท ถ้าจะซื้อเป็นตัว จำหน่ายตัวละ 200 บาท
สำหรับ ผู้นิยมชอบทานหนูนา จะนำไปประกอบอาหารเป็นเมนูจานเด็ดหลากหลายอย่าง เช่น หนูนาทอดกระเทียมพริกไท, แกงเผ็ดหนูนา, ปิ้ง หรือ ย่าง หนูนา ส่วนอาหารอีสาน ก็จะเป็น แกงอ่อมหนูนา ถือว่า เป็นเมนูจานเด็กของชาวอีสานนิยมรับประทาน ซึ่งมีรสชาติอร่อยแซบจนน้ำลายไหล ไม่แพ้อาหารภาคใดเลยทีเดียว…
สนธยา ทิพย์อุตร/รายงาน
