ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “เหตุด่วนครับ สองชายหญิงแม่ลูกขายน้ำผึ้ง คาดว่า ของขึ้น หรือหลอน หาเรื่องชาวบ้านถีบรถและต่อยซ้ำ แล้วหลบหนีไปทางบ้านจอก ด้วยรถจักรยานยนต์ ตามภาพตำบลแมดเหตุเกิด อบต.หนองมะแซว วันที่ 18 มี.ค.64 เวลา 13.00 น. โดยในจากภาพวงจรปิด ได้จับภาพสองชายหญิงแม่ลูก ขณะที่กำลังขับรถออกจาก อบต.หนองมะแซว ก่อนโบกรถจักรยานยนต์ ที่ขับผ่านบริเวณหน้า อบต.ให้หยุดจอด แล้วปรี่เข้าไปรัวหมัดใส่ไม่ยั้ง”
.jpg)
ทีมข่าวช่องวัน 31 ได้เดินทางไปที่ รพ.สต.หนองมะแซว อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทีมข่าวได้พบกับผู้เสียหาย คือ นายชัชวาล สรรพทรัพย์ เจ้าพนักงานสาธารณสุขปฏิบัติงาน ประจำ รพ.สต.หนองมะแซว ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายในคลิปดังกล่าว เล่าว่า ขณะนั้นตนกำลังจะออกไปทำธุระภายในตัวเมืองอำนาจเจริญ โดยขณะที่กำลังขับรถไปก็มีชายคนหนึ่ง ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะชายคนดังกล่าวได้สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ได้โบกรถให้ตนเองจอด ตนเห็นว่าชายคนดังกล่าวขี่รถจักรยานยนต์มากับผู้หญิงอีกคน ขี่ออกมาจาก อบต.หนองมะแซว ตนก็นึกว่าชายคนดังกล่าวจะมีเรื่องให้ช่วยเหลือตนจึงได้จอดรถ
.jpg)
ก่อนที่จะถูกชายคนดังกล่าวประเคนรัวหมัดใส่อย่างไม่ยั้ง แถมมีการจะเตะเข้าที่บริเวณหัวของตนอีก โชคดีที่ไม่โดน พอตนตั้งสติได้ จึงรีบวิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือจากพนักงาน อบต.หนองมะแซว ก่อนที่ชายคนดังกล่าวและหญิงสาวอีกคนก็ได้ขี่รถหลบหนีออกไป หลังจากเกิดเหตุตนก็ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอำนาจเจริญ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายแล้ว
.jpg)
ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง อบต.หนองมะแซว ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ โดยจุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าป้าย อบต.หนองมะแซว ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ได้หมด โดย นายวงศกร ผลให้ เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.หนองมะแซว บอกว่า สองชายหญิงแม่ลูกได้เดินทางมาขายน้ำผึ้ง ก่อนที่ชายคนก่อเหตุเหมือนจะเดินเข้ามาหาเรื่องภายในห้องกู้ชีพ อบต.โดยพูดเสียงดังโวยวายว่า อยากมีเรื่อง อยากติดคุกไปกินข้าวหลวงฟรี ก่อนที่จะเดินออกไป แล้วขี่จักรยานยนต์ออกไปกับแม่ พอขี่ไปถึงหน้าประตูชายผู้ก่อเหตุก็ได้โบกรถ ให้ผู้เสียหายจอดรถก่อนที่จะรัวหมัดใส่แบบไม่ยั้ง พอตนเห็นจึงได้พากันวิ่งออกไปช่วยเหลือ
พ.ต.ท.เทวราช เอื้อวงษ์ประเสริฐ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอำนาจเจริญ เผยว่า หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สืบสวนก็ได้ลงพื้นที่เพื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิด แต่เนื่องด้วยผู้ก่อเหตุสวมหมวกกันน็อกปิดบังอำพรางใบหน้า จึงอาจจะต้องใช้เวลาในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
