ศบค.ชุดเล็ก เสนอลดมาตรการบางประเภท ปรับพื้นที่โซนสี “แดงเข้ม” เหลือ “สมุทรสาคร” พื้นที่เดียว อนุญาตเปิดเรียน-นั่งร้าน-ดื่มแอลกอฮอล์ 5 ทุ่ม
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 64 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ประจำวัน ว่า ช่วงเช้าเป็นการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อผ่อนคลายมาตรการการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด -19 โดยมี พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษาพิเศษกระทรวงสาธารณสุข และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์อุดม คชินทร คณะกรรมการการอุดมศึกษา
โดยมีการข้อเสนอแผนแนวปฏิบัติเพื่อผ่อนคลายมาตรการโควิดระลอกใหม่ เสนอโดยกระทรวงสาธารณสุข ใน 3 เรื่อง คือ
1. การเตรียมการเปิดการเรียนการสอน
2. ปรับขยายระยะเวลาการเปิดร้านอาหาร ถึง 23.00 น. เล่นดนตรีสด และการจำหน่ายสุราและอนุญาตให้นั่งดื่มในร้านอาหารถึง 23.00 น. และ
3. ได้มีการเสนอพื้นที่การบังคับใช้โดยต้องมีแนวพื้นที่จังหวัดกันชน และพื้นที่ที่มีความเสี่ยงไปยังพื้นที่อื่น มีพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ควบคุมสูงสุดควบคุม เฝ้าระวังสูง และเฝ้าระวัง ซึ่งจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ หรือจำนวนผู้ติดเชื้อน้อย และรายอำเภออาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดในนอกจังหวัดต่างกันจังหวัดพิจารณาปรับลด หรือเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการการควบคุมแบบบูรณาการตามเกณฑ์รายอำเภอได้ เพื่อความอ่อนตัวในการบริหารจัดการ พิจารณาจากการติดเชื้อในแต่ละพื้นที่จังหวัด
นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังระบุถึงการปรับพื้นที่ ดังนี้
– พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ปรับเหลือจังหวัดเดียว คือ จังหวัดสมุทรสาคร
– พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) ลดเหลือ 4 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี
– พื้นที่ควบคุม (พื้นที่สีส้ม) จำนวน 20 จังหวัด ประกอบด้วย ตาก กาญจนบุรี ชัยนาท อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี อยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด
– พื้นที่เฝ้าระวังสูง (พื้นที่สีเหลือง) 17 จังหวัด ประกอบด้วย นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร สุโขทัย นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี พังงา สงขลา ยะลา นาราธิวาส
– พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) จำนวน 35 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน พะเยา อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาญ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต กระบี่ สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี
นอกจากนี้ ยังมีการเสนอให้มีการบังคับมาตรการเข้มงวดเฉพาะพื้นที่สมุทรสาคร ซึ่งเป็นเพียงข้อเสนอเท่านั้น โดยจะต้องนำไปสู่คณะประชุมศบค. ชุดใหญ่ในวันศุกร์นี้ โดยอาจมีการเปลี่ยนแปลง หากคณะกรรมการในที่ประชุมนั้นเห็นว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนอะไร ประกอบด้วย การอนุญาตให้เปิดตลาดนัด ร้านอาหารแต่ให้ซื้อนำกลับไปบริโภคที่บ้านเท่านั้น และไม่เปิดบริการเกิน 21.00 น. ส่วนการเปิดห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดบริการได้ไม่เกิน 21.00 น. นอกจากนี้ยังมีการแบ่งเฉดสีแดงแต่ละกิจกรรม กิจการ ที่ต้องปิดกิจการอยู่ คือ สถานบริการผับบาร์ คาราโอเกะ
ส่วนกิจกรรมด้านการพนันปิดทุกพื้นที่สถานบริการอาบน้ำ อาบอบนวด ให้ปิดบริการ และให้งดบริการนอกสถานที่ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด ส่วนในพื้นที่เฝ้าระวังให้สามารถเปิดบริการได้แต่จำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ ส่วนกีฬาสามารถแข่งขันได้โดยไม่มีผู้เข้าชม ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังสามารถให้ผู้ชมเข้าชมได้แต่ต้องมีจำนวนจำกัด
ส่วนเรื่องการจัดการเรียนการสอนพื้นที่อื่นๆให้เปิดการเรียนการสอนได้เกือบทั้งหมด เว้นในจังหวัดสมุทรสาคร ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลให้เปิดการเรียนการสอนได้ โดยคำนึงถึงมาตรการในการป้องกันโรค เช่นการสลับเวลาเรียนเว้นระยะห่าง หรือใช้ออนไลน์เสริม
นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุด้วยว่า การผ่อนปรณมาตรการเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การเปิดกิจการกิจกรรมและการควบคุมโรคต้องทำให้ 2 อย่างมีน้ำหนักที่ไปด้วยกันได้อย่างกรณีการเปิดเรียนมีการนำเสนอในที่ประชุม แต่ปรากฏในบางพื้นที่อย่างจังหวัดสมุทรสาคร แม้ว่าจะมีบางพื้นที่เป็นพื้นที่สีเขียวจะมีการเคลื่อนย้ายเคลื่อนที่ของคน ทำให้มีกระบวนการทำให้เกิดความเสี่ยงของโรคและทำให้ตัดสินใจได้ยาก ทำให้เกิดการลักลั่นในบางพื้นที่ที่สำคัญที่สุดคือจะต้องควบคุมวิถีชีวิตประจำวัน
