วอนทำพิธีส่งวิญญาณ น้องฆ่าพี่ป่วยติดเตียง ชาวบ้านผวา หมาหอนทั้งคืน

จากเหตุสลด น้องชายวัย 70 ปี ลงมือฆ่าพี่ชายแท้ๆ วัย 72 ปี คาบ้านพักที่ จ.อำนาจเจริญ ก่อนจะผูกคอตัวเองตายตาม เหตุผลเพราะไม่มีเงินดูแลพี่ที่ป่วย และตัวเองไม่มีรายได้ ล่าสุด เพื่อนบ้านรอบข้างหอบเสื้อผ้าหนีไปค้างบ้านญาติ เพราะผวา หมาหอนทั้งคืน จนแทบไม่ได้นอน วอนผู้นำชุมชนนิมนต์พระมาทำพิธีส่งวิญญาณ

วันที่ 1 เม.ย. ที่บ้านเลขที่ 14 ม 6 ต.ป่าก่อ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ บ้านที่เกิดเหตุน้องฆ่าพี่แล้วฆ่าตัวตาย ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายสิงห์ รุจิอังกูร อายุ 73 ปี เพื่อนบ้าน เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 มี.ค. ขณะกำลังทำงานบ้านอยู่ที่บ้าน ห่างจากบ้านเกิดเหตุ 1 หลัง มีเพื่อนบ้านขับสามล้อผ่านมา เห็นเหมือนคนผูกคอตายที่ใต้ถุนบ้านเกิดเหตุ จึงได้จอดคุย แล้วพากันเดินมาดู พบว่า นายอั้ง เนตรรักษ์ เจ้าของบ้านได้ใช้เชือกไนลอนผูกคอตายข้างบันไดใต้ถุนบ้าน จึงรีบตะโกนเรียกเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ให้ไปตามผู้ใหญ่บ้านมา

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์เวร และมูลนิธิมาถึง ได้ตรวจที่เกิดเหตุภายในบ้านยังพบศพนายเคน เนตรรักษ์ อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของนายอั้ง นอนคว่ำหน้ามีเลือดแห้งเกรอะในห้องนอน ข้างศพมีค้อนและสากกะเบือไม้ตกอยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนจึงได้นำศพของทั้งคู่ไปบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจที่วัด เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเผาศพแล้วเมื่อคืนนี้หมาในซอยได้พากันหอนทั้งคืน จนเพื่อนบ้านรอบๆ ไม่กล้านอน ต้องหอบผ้าหอบผ่อนหนีไปค้างบ้านญาติกันเกือบหมด เหลือเพียงบ้านตนหลังเดียวในซอยนี้ที่ไม่ย้ายไปไหน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบกับครอบครัว นางสาวนิภาพร มูลสาร อายุ 29 ปี ซึ่งอยู่บ้านหลังตรงข้ามกับบ้านเกิดเหตุ ได้กลับมาที่บ้านเพื่อมาเก็บเสื้อผ้า เพื่อไปพักอยู่บ้านญาติในหมู่บ้าน นางสาวนิภาพร เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อราวๆ ปลายปีแล้ว นายอั้ง ผู้ก่อเหตุได้ระบายความทุกข์ให้ฟังเป็นประจำว่า ตัวเองใกล้จะหมดสิ้นหนทางแล้ว เงินที่ขายที่ดินได้ก็กำลังจะหมด อีกทั้งยังต้องรับภาระเลี้ยงดูพี่ชายชราที่ป่วยอีก และมักบ่นว่าอยากตาย แต่หากตัวเองต้องตายก็จะให้พี่ชายตายก่อน เพราะว่าถ้าตัวเองตายไป พี่ชายก็จะไม่มีใครดูแล ซึ่งนางสาวนิภาพรและแม่ได้พูดให้กำลังใจเรื่อยมา ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุเช่นนี้ และพักหลังๆ 2-3 เดือนที่ผ่านมา เวลานายอั้งเมาเหล้ากลับมาบ้าน ก็มักจะมาดุด่าพี่ชายและลงมือทุบตีเป็นประจำ ซึ่งก่อนนี้ไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือ จะมีก็เพียงแค่ดุด่า

ขณะที่ นางแดง โคตรวงศ์ อายุ 48 ปี เพื่อนบ้านอีกคน พูดทำนองเดียวกันว่า หลังเกิดเหตุที่บ้านเกิดเหตุไม่ได้มีการมาทำพิธีอะไรเลย คราบเลือด และร่องรอยก่อเกิดเหตุก็ยังอยู่ จนไม่มีชาวบ้านกล้าเข้าใกล้ ยิ่งใครอยู่ใกล้ก็ยิ่งกลัว เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่กล้าหลับ จึงอยากวอนให้ผู้นำชุมชนมาช่วยทำพิธีอะไรก็ได้ที่ทำให้ชาวบ้านสบายใจ เพราะเมื่อคืนหมาแถวบ้านหอนกันทั้งคืน.