วันพุธ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 06.21 น.
เมื่อถึงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวนิยมไป วนอุทยานภูสิงห์ – ภูผาผึ้ง อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ยอดนิยม ของจังหวัดอำนาจเจริญ อยู่ห่างจากตัวเมืองอำนาจเจริญ ประมาณ 15 กิโลเมตร ตามถนนอรุณประเสริฐ ทางทิศตะวันตก ของตัวเมืองอำนาจเจริญ ถือว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ จึงมีนักปีนเขา ไต่เขา เตี้ยๆ ไม่สูงมากนัก เดินทางขึ้นไปชมทิวทัศน์ ทัศนียภาพบนยอดเขาอย่างต่อเนื่อง

วนอุทยานภูสิงห์ – ภูผาผึ้ง ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านป๋าเจริญ ต.สร้างนกทา อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ โดยคาบเกี่ยวพื้นที่ 3 ตำบล คือ ตำบลคึมใหญ่ ตำบลเหล่าพรวน อ.เมืองอำนาจเจริญ รวมถึงต.โนนงาม อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงบักอี่ ดงหัวกอง มีเนื้อที่ 10,000 ไร่ กรมป่าไม้ได้ดำเนินการจัดตั้งเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2539
วนอุทยานภูสิงห์ – ภูผาผึ้ง ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อนกันเป็นเทือกยาว ในชั้นระดับความสูง จากระดับน้ำทะเลประมาณ 200 – 300 เมตร บางส่วนเป็นลานหินกว้างและหน้าผาสูงชัน มีถ้ำขนาดกลางและขนาดเล็กหลายแห่ง และยังเป็นแหล่งต้นน้ำห้วยสีโทและห้วยทรายด้วย
วนอุทยานภูสิงห์-ภูผาผึ้ง ได้รับการปรับปรุงพัฒนาให้สะดวกสามารถเป็นเส้นทางเดินเท้า ขึ้นเขา ชมธรรมชาติ โดยไม่หลงป่า เพราะมีแนวชี้บอกทางเดินที่แน่ชัด ระยะเวลาในการเดินเท้าท่องเที่ยวชมธรรมชาติ โดยรอบจนกลับมาที่เดิม ใช้เวลาประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง
.jpg)
การที่จะเข้าไปสัมผัสธรรมชาติอันสวยงาม จะต้องเดินเท้าอย่างเดียว โดยจุดเริ่มต้นที่วนอุทยานภูสิงห์-ภูผาผึ้ง ทางทิศใต้ เพื่อจะไปมนัสการ พระเทพรัตนโกสินทร์ แบบปางห้ามญาติ ประดิษฐานอยู่บนหินผาสูง คล้ายหน้าผาพระพักตร์หันไปทางทิศตะวันออก ด้านล่างเป็นลานหินกว้าง ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนชั่วคราวของนักท่องเที่ยว และกราบขอพรบูชาพระเทพรัตนโกสินทร์ เพื่อความเป็นสิริมงคล
ลานควายตู้ อยู่ห่างจาก พระเทพรัตนโกสินทร์ ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นลานหินกว้างใหญ่ ว่ากันว่า สมัยโบราณ นายฮ้อยวัว หรือ พ่อค้าวัว ควาย มักจะเดินทางค้าขายข้ามจังหวัด ผ่านป่าเขาลำเนาไพร หากมืดค่ำ จะพักค้างแรม บริเวณนี้ จึงเป็นที่สำหรับพักค้างแรมของบรรดานายฮ้อยวัว จึงเป็นที่มาของลานควายตู้ ให้เล่าขานจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน
ห่างกันไม่ไกล จะเป็นลานหินกว้าง 10 เมตร ซึ่งหินคล้ายตะพาบน้ำตั้งอยู่บนลาน เกิดจากการกัดเซาะของน้ำลมและแสงแดด ถัดไปทางทิศเหนือ จะพบเห็น ผาผึ้ง มีลักษณะเป็นหน้าผาสูง มีรังผึ้งอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และอยู่ใกล้กัน จะเป็นผาส่อง ถือว่าเป็นจุดชมวิวทางธรรมชาติอีกจุดหนึ่ง เพราะผาส่องสามารถมองเห็น ทิวทัศน์ทางธรรมชาติได้ใกล้ชิดที่สุด

สำหรับ สถานีอ่างกบ เชื่อว่า เป็นอ่างน้ำสำหรับคน สัตว์ ที่อาศัยอยู่บนภูเขา ใช้ดื่มกินและมีกบจำนวนมากอาศัยอยู่ มีน้ำขังตลอดปี และมีสาหร่ายสีเขียวสดลอยอยู่เหนือผิวน้ำสวยงามมาก
เมื่อเดินมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ไม่ถึง 6 กิโลเมตร จะพบเห็นลานทุ่งหญ้ากว้าง ประมาณ 2 ไร่ ประกอบด้วยดอกหญ้านานาชนิดผุดขึ้นเต็มพื้นที่ ออกดอกหลากสี สร้างสีสันสวยงามมาก ซึ่งจะออกดอกในช่วงปลายฝนต้นหนาว ณ จุดนี้ จัดให้เป็นแหล่งศึกษาทางธรรมชาติที่สำคัญ เป็นไฮไลท์ก็ว่าได้ ซึ่งจะให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต ที่ช่วยในการย่อยสลายเป็นอย่างดีและที่ผ่านมา มีนักเรียน นักศึกษา เดินทางเข้ามาค้นคว้า ศึกษาหาความรู้เป็นประจำ
นอกจากนี้ ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่งเช่น อ่างเก็บน้าห้วยสีโท เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ผาหินวงกต น้ำตกห้วยทราย น้ำตกพญานาค ถ้ำยาวภูเอ็น เป็นต้น…
สำหรับนักท่องเที่ยวต้องการพักค้างแรม วนอุทยานฯเตรียมบ้านพักรับรอง และลานกางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งจะได้รับความปลอดภัย ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืน สายลมหนาวพัดกระทบกาย แสนจะโรแมนติก จะทำให้ท่านประทับใจไปอีกนาน…
