“ปิยบุตร” บุก “มุกดาหาร-อำนาจเจริญ” ปลุก ปชช. 20 ธ.ค.ไปเลือกตั้งนายกอบจ. บอก ต้องหยุดการเมือง “ตระกูล” ผูกขาด ด้าน “ธนาธร” ขึ้นเหนือแห่รอบ “พะเยา” ปราศรัยใหญ่
วันที่ 12 ธ.ค. ที่ จ.มุกดาหาร นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ร่วมรณรงค์หาเสียงให้กับ นายสุพจน์ สุอริยพงศ์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มุกดาหาร เบอร์ 1 โดยเริ่มต้นเดินตลาดนัดเช้าเทศบาล อ.ดอนตาล แจกเอกสารแผ่นพับนโยบายพร้อมกล่าวปราศรัยกับประชาชน ขณะที่ในช่วงหัวค่ำของวานนี้ เปิดเวทีปราศรัยกับประชาชนใน 2 จุดสำคัญ คือ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอดงหลวง และหน้าที่ว่าการอำเภอคำชะอี ท่ามกลางประชาชนที่ให้ความสนใจมารอฟังเนืองแน่น
นายปิยบุตร กล่าวตอนหนึ่งว่า จากพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกยุบไปจนมาถึงคณะก้าวหน้า เราเกิดขึ้นมาเพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.และประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้พวกตนจะถูกตัดสิทธิ์ แต่ก็ไม่ยอมอยู่เฉย ยังคงทำงานสืบสานแนวคิดของพรรคอนาคตใหม่อยู่ หนึ่งในนั้น คือ การผลักดันการกระจายอำนาจ ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่นเพื่อเปลี่ยนการเมืองท้องถิ่นจากระบบอุปถัมภ์ การเมืองของบ้านใหญ่ การซื้อเสียงทุจริต ให้เป็นการเมืองของประชาชน นั่นจึงทำให้เราตกเป็นเป้าของการเมืองเก่าทุกฝ่าย แม้กระทั่งพวกที่อ้างว่า ตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ทั้งนี้ สิ่งที่พวกเราต้องคิดกัน คือ การที่คนในบ้านเดียวกันเป็น ส.ส. อีกคนหนึ่งเป็นนายก อบจ. อีกคนเป็นนายกเทศมนตรี ฯลฯ เหมากวาดทุกตำแหน่งในจังหวัดหมด แบบนี้เราเรียกว่า ผูกขาดการเมืองหรือไม่ การที่ตระกูลหนึ่งหรือบ้านหนึ่งสามารถยึดได้ทั้งจังหวัดทุกตำแหน่ง
นายปิยบุตร กล่าวว่า อบจ.มุกดาหาร ไม่ใช่สมบัติของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง ที่พอได้เป็นนายก อบจ.แล้วเอาตำแหน่งมาเกลี่ยให้คนในครอบครัวผลัดสลับกันไป ได้เวลาหยุดการเมืองแบบเก่าที่ผูกขาดอยู่กับตระกูลเดียวแบบนี้ รวมทั้งการเมืองเก่าประเภทที่ว่าเวลาอยู่ในการเมืองระดับชาติก็เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ฟาดฟันกับฝ่ายเผด็จการ แต่พอถึงเวลาการเมืองท้องถิ่นก็ไปจูบปากจับมือกับพรรคพวกของฝ่ายเผด็จการ สนับสนุนผู้สมัครของพรรคพวก คสช.ที่หนุนการสืบทอดอำนาจด้วย ดังนั้น หากว่าวันนี้พี่น้องหลายคนที่มีมีจิตใจรักประชาธิปไตย ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เยาวชนที่ชุมนุมอยู่ที่กรุงเทพฯ ทำอย่างไรประยุทธ์ก็ไม่ออกเสียที อยากช่วยแต่ต้องทำมาหากิน ไม่สามารถเสียค่ารถไปได้ มีวิธีง่ายๆ ที่เราสามารถใช้ในการแสดงออกได้ทุกคน นั่นคือ 20 ธันวาคม นี้ เข้าคูหากาเลือกผู้สมัครของคณะก้าวหน้าให้เป็นนายก อบจ. เพราะนี่คือคนที่คณะก้าวหน้า ซึ่งมีจุดยืนตรงข้ามกับ คสช.และประยุทธ์อย่างชัดเจน ถ้าพี่น้องร่วมกันกาให้มากๆ จนถล่มทลาย นั่นก็คือการส่งสัญญาณไปดังๆ แล้ว ว่า เราไม่เอาประยุทธ์ จันทร์โอชา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นในช่วงบ่าย นายปิยบุตร เดินทางต่อไปที่ จ.อำนาจเจริญ ร่วมรณรงค์หาเสียงให้กับนายชัยศรี กีฬา ผู้สมัครนายก อบจ.อำนาจเจริญ เบอร์ 4 โดยขึ้นรถแห่หาเสียงรอบจังหวัด ได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนอย่างอบอุ่น ก่อนที่จะเปิดปราศรัยที่ ต.แมด อ.ลืออำนาจ และเดินพบปะประชาชนในตัวเมืองลืออำนาจ และเปิดปราศรัยอีกจุดที่ ต.ปลาค้าว อ.เมืองอำนาจเจริญ โดย นายชัยศรี นำเสนอนโยบายก้าวหน้าหลากหลายให้พี่น้องชาวอำนาจเจริญ ตั้งแต่เรื่องของการคมนาคมสาธารณะ, โครงการพัฒนาฟื้นฟูแหล่งน้ำแก้ปัญหาน้ำแล้ง, ปรับปรุงถนนเข้าสู่ที่นาของเกษตรกร, พัฒนาการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของผู้สูงอายุ, ฟื้นฟูทรัพย์สิน อบจ.ที่ปล่อยทิ้งร้าง, เปิดข้อมูลงบประมาณ อบจ., จัดให้มีการถ่ายทอดสดการประชุม, นำระบบการจัดทำงบประมาณแบบมีส่วนร่วมมาใช้ ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำได้ด้วยงบประมาณ อบจ.อำนาจเจริญที่มีอยู่ 317 ล้านบาทต่อปี หรือครบวาระ 1,268 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อีกด้านหนึ่ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ยังคงอยู่ในการเดินทางช่วยผู้สมัครณรงค์หาเสียงในพื้นที่ภาคเหนือ โดยในช่วงเช้าของวันนี้ช่วยหาเสียงให้กับ นายชัยประพันธ์ สิงห์ชัย ผู้สมัครนายก อบจ. พะเยา เบอร์ 1 พร้อมทีมผู้สมัคร ส.อบจ. โดยการหาเสียงเริ่มต้นที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีประชาพัฒน์ อ.เมือง พะเยา ขึ้นรถแห่หาเสียงต่อไปยัง ตลาดสดเชียงมั่น ต.ดงเจน อ.ภูกามยาว ก่อนเดินทางต่อไปยัง อ.ดอกคำใต้ และขึ้นปราศรัยบนรถแห่จุดสุดท้ายที่ อ.เชียงคำ ขณะที่ในช่วงหัวค่ำของวานนี้ ที่ จ.แพร่ ร่วมปราศรัยรณรงค์หาเสียงให้กับ นายศุภวัฒน์ ศุภศิริ ผู้สมัครนายก อบจ.แพร่ เบอร์ 3 พร้อมทีมผู้สมัคร ส.อบจ.ในนามคณะก้าวหน้า บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมารอฟังการปราศรัยมากกว่า 1,500 คน โดยประชาชนที่มาต่างเชื่อมั่นในนโยบายจากคณะก้าวหน้า ว่าสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในจังหวัดได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ นายธนาธรเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า นายศุภวัฒน์ จะได้เป็นนายก อบจ.ที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย