‘ประภาพร’ จี้ ‘อนุทิน’ สนใจปัญหาน้ำท่วม ปริมาณน้ำปริมเขื่อนบ้าง อย่ามั่วแต่พาพ่อไปกินข้าวในทำเนียบ พาภรรยาไปลอยกระทง ย้ำต้นเดือนที่ผ่านมาน้ำท่วม 2 ล้านกว่าไร่ พื้นที่ปลูกข้าวกระทบ 3 แสนกว่าไร่ พายุลูกใหม่เข้า ฝนอาจตกหนักเตรียมรับมือบ้างหรือยัง
วันที่ (8 พฤศจิกายน 2568) ประภาพร ทองปากน้ำ สส. สุโขทัย และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงความล้มเหลวในการเตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมของรัฐบาล โดยชี้ว่า ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม – 6 พฤศจิกายน ข้อมูลจากสำนักงานเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสารสนเทศ ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมามีประชาชนหลายพื้นที่ หลายจังหวัดกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์น้ำท่วม มีพื้นที่น้ำท่วมทั้งหมด 2,393,416 ไร่ มีจำนวนประชากรที่ได้รับผลกระทบ 533,961 คน และมีพื้นที่นาข้าวได้รับความเสียหายกว่า 350,000 ไร่
ในจำนวนนี้พบว่ามี 6 จังหวัดที่มีพื้นที่น้ำท่วมหนักคือ พระนครศรีอยุธยา 444,393 ไร่ นครสวรรค์ 338,782 ไร่ สุพรรณบุรี 327,059 ไร่ พิจิตร 280,077 ไร่ สุโขทัย 217,147 ไร่ และจังหวัดพิณุโลก 189,872 ไร่
“ในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น นครสวรรค์ สุโขทัย พิษณุโลก สส.พรรคเพื่อไทยอาทิ สส.ทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย จังนครสวรรค์ สส.จักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล จังหวัดสุโขทัย สส.นพพล เหลืองทองนารา จังหวัดพิษณุโลก อรรถพล โต๋วสัจจา ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้งจังหวัดอุทัยธานี จิรทัศ ไกรเดชา ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และท่านอื่นๆ ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่ประชาชนกำลังเผชิญหน้า แต่เรากลับไม่เห็นความพยายามแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมจากรัฐบาล รวมทั้งไม่มีแม้แต่เพียงการสื่อสารที่ทำให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ละเลยปัญหานี้”
“ดิฉันได้ลงพื้นที่ เข้าช่วยเหลือ และเยี่ยมเยียน พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย พวกเขาต่างคาดหวังความช่วยเหลือจากรัฐบาลค่ะ เนื่องจากอุทกภัยในครั้งนี้ เกิดขึ้นอย่างตั้งตัวไม่ทัน
จากปริมาณน้ำฝนที่ตกติดต่อ กันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ บ้านเรือนเสียหาย น้ำท่วมขัง ไร่นา ไม้ผล เสียหาย นาข้าวที่กำลังรอเกี่ยวอีกไม่กี่วัน จมน้ำ เงินแสน เงินหมื่น หายไปกับตา โดยที่พวกเขา ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และพวกเขายังหวัง และรอคอย ให้รัฐบาล และท่านนายกรัฐมนตรี เร่งเข้ามาช่วยเหลือ แก้ไข เยียวยา ทั้งบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตร”
“แต่ปัจจุบันเนื่องจาก หลายจังหวัดยังไม่ได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ (หากไม่ประกาศภัย ท้องถิ่นจะใช้งบประมาณช่วยเหลือไม่ได้)จึงอาจส่งผลให้อุทกภัยในครั้งนี้ ไม่สามารถได้รับการเยียวยาจากรัฐบาล วันนี้ ดิฉันขอเรียกร้อง ให้รัฐบาลเร่ง มอบนโยบายสำรวจความเสียหายและหาเงินเพื่อมาชดเชยเยียวยาให้กับ ประชาชนผู้ประสบภัยโดยด่วนค่ะ”
ประภาพร กล่าวต่อว่า มากไปกว่าปัญหาน้ำท่วมที่มีอยู่ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เมื่อตรวจสอบจากคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 90% ของความจุ ถือว่าสูงต่อเนื่องจากฝนในช่วงฤดูที่ผ่านมา และหลายเขื่อนมีระดับน้ำใกล้เต็มหรือเกินความจุกักเก็บ ได้แก่
เขื่อนภูมิพล 97.4% เขื่อนสิริกิติ์ 97.3% เขื่อนกิ่วคอหมา 107.6% เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 103.59% เขื่อนขุนด่านปราการชล 100.29%
“ระดับน้ำดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่อง น่าห่วงกังวลมาก และต้องการบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาความปลอดภัยของเขื่อนและลดผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ แต่เรากลับเห็นการสื่อสาร หรือการทำงานในเรื่องนี้ของรัฐบาลน้อยมาก
และที่สำคัญ ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” กำลังเคลื่อนตัวบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ไปขึ้นฝั่งที่เวียดนาม และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง และเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยตอนบน ซึ่งสังเกตได้ว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี มีฝนตกหนักมากขึ้น ขณะที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่าจะมีฝนตกหนักในบางพื้นที่
“ปริมาณน้ำเป็นสถานการณ์ที่พี่น้องประชาชนกำลังกังวล แต่เมื่อพี่น้องประชาชนเปิดทีวีดูข่าว กลับพบแต่เพียงข่าวท่านนายกรัฐมนตรีพาคุณพ่อไปทานข้าวในทำเนียบรัฐบาล ข่าวท่านนายกรัฐมนตรีพาภรรยาไปลอยกระทง และข่าวการชวน สส. อดีต สส. เข้าพรรคภูมิใจไทย
ดิฉันหวังว่าท่านจะรับฟังเรื่องเหล่านี้ และเร่งสื่อสารกับประชาชนให้ชัดเจน พร้อมกับเปิดเผยแผนการรับมือโดยเร็ว เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้น ประชาชนย่อมรู้สึกได้ว่า ท่านไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลย”
นอกจากนี้ ประภาพร ระบุด้วยว่า สำหรับพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในขณะนี้ แต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ จากทาางรัฐบาล สามารถประสานงานมาที่ สส. พรรคเพื่อไทย และทีมงานพรรคเพื่อไทยได้ที่
พิษณุโลก สส.พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ
นครสวรรค์ สส.ทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย
อุบลราชธานี สส.วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์
อำนาจเจริญ คุณสมหญิง บัวบุตร
ยโสธร สส.บุญแก้ว สมวงศ์ มหาสารคาม สส.จิรวัฒน์ ศิริพานิชย์
อุทัย ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี อยุธยา
