สำนักงาน ปปง. ขายทอดตลาด ป้ายทะเบียนรถยนต์เลขสวย ยานพาหนะ เครื่องเรือนไม้สักสภาพดี เครื่องใช้ไฟฟ้า และทรัพย์สินอื่นกว่า 60 รายการ 22 ก.พ.นี้
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. สำนักงาน ปปง. มีความประสงค์จะทำการขายทอดตลาดทรัพย์สิน ครั้งที่ 9/2565 ในวันที่ 22 ก.พ.65 เวลา 10.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 อาคารสำนักงาน ปปง. ซึ่งในการขายทอดตลาดทรัพย์สินในครั้งนี้ เป็นทรัพย์สินประเภทยานพาหนะ ป้ายทะเบียนรถยนต์ เครื่องเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า และจานดาวเทียม จำนวน 59 รายการ โดยมีรายการทรัพย์สินที่น่าสนใจ อาทิเช่น
1.รถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ (MERCEDES BENZ) สีขาว จำนวน 1 คัน ราคาเริ่มต้น 720,000 บาท 2.รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า (TOYOTA) สีดำ จำนวน 1 คัน ราคาเริ่มต้น 450,000 บาท 3.รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อ MAZDA รุ่น MAZDA 3 สีแดง จำนวน 1 คัน ราคาเริ่มต้น 220,000 บาท 4.รถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้าสีขาว จำนวน 1 คัน ราคาเริ่มต้น 180,000 บาท 5.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ DUCATI รุ่น M795 จำนวน 1 คัน ราคาเริ่มต้น 99,000 บาท
6.รถแทรกเตอร์ ยี่ห้อ JOHN DEERE จำนวน 1 คัน ราคาเริ่มต้น 180,000 บาท 7.ป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลข กค 9889 อำนาจเจริญ ราคาเริ่มต้น 135,000 บาท 8.โต๊ะไม้สัก 1 ตัว พร้อมเก้าอี้ 12 ตัว จำนวน 1 ชุด ราคาเริ่มต้น 14,500 บาท 9.เครื่องเล่นดีวีดี ยี่ห้อ PIONEER พร้อมลำโพงโฮมเธียร์เตอร์และอุปกรณ์ 1 ชุด พร้อมรีโมท จำนวน 1 ชุด ราคาเริ่มต้น 600 บาท
ผู้ที่ประสงค์เข้าสู้ราคาการขายทอดตลาดทรัพย์สินครั้งนี้ สามารถติดต่อขอดูสภาพทรัพย์สินได้ ในวันที่ 21 ก.พ.65 เวลา 09.30 – 16.00 น. ตามสถานที่ที่กำหนดดังนี้ ทรัพย์สินลำดับที่ 1 – 47 ณ อาคารเก็บรักษาทรัพย์สิน สำนักงาน ปปง. เลขที่ 46/4 ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี , ทรัพย์สินลำดับที่ 48 – 49 ณ พื้นที่เก็บศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร และ ทรัพย์สินลำดับที่ 50 – 59 ณ บริษัท นิลธาร จำกัด ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดตามข่าวสารได้ทางเว็บไซต์ของสำนักงาน ปปง.www.amlo.go.th หรือโทรสายด่วน ปปง. 1710
หมายเหตุ สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ขอความร่วมมือผู้ที่ประสงค์จะดูสภาพทรัพย์สินและเข้าร่วมการขายทอดตลาดฯ โปรดปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ของสำนักงาน ปปง. อย่างเคร่งครัด
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่
