นายกฯ แจงขายที่ดินให้ต่างชาติ ขั้นตอนยังอยู่ที่กฤษฎีกา พร้อมรับฟังความเห็นและปรับเปลี่ยนแปลงได้ “สมคิด” สะกิดรัฐบาลทำให้รอบคอบ แนะให้เช่าระยะยาวแทน “เพื่อไทย” ได้ทีรุมจวกขายชาติมากกว่ากระตุ้น ศก.หวั่นที่ดินราคาแพงคนจนต้องเช่าต่างชาติอยู่ แฉให้ใบอนุญาตผลิตไฟเพิ่มทั้งที่ปัจจุบันล้นเกินอยู่แล้ว จ้องเปลี่ยนบอร์ด ปตท.-ปลัดพลังงาน หวังเอาใจนายทุน “เต้” เตรียมร้องศาลปกครองยับยั้งมติ ก่อนล่าชื่อคัดค้าน
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 1 พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีร่างกฎกระทรวงอนุญาตให้คนต่างชาติถือครองที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ แลกกับนำเงินมาลงทุนในไทยอย่างน้อย 40 ล้านบาท ที่มีกระแสคัดค้านจากหลายฝ่ายในขณะนี้ว่า ตอนนี้เป็นเรื่องที่กฤษฎีกากำลังพิจารณาอยู่ ขั้นตอนยังอยู่ที่กฤษฎีกา และต้องรับฟังความเห็นอีก ปรับ เปลี่ยนแปลงได้
เมื่อถามว่า มีอะไรจะชี้แจงเพิ่มเติมต่อสังคมกรณีนี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่มีอะไร” เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่โดนโจมตีในเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ส่ายศีรษะพร้อมกล่าวว่า “ชี้แจงได้หมดแหละครับ”
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ต้องดูรายละเอียด เพราะมีเยอะแยะไปหมดเลย เราก็ต้องดูว่าเทรนด์โลกเป็นอย่างไร ประโยชน์ปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร ต่อให้เขาเป็นเจ้าของ เขาก็ยกที่ดินตรงนี้เอากลับบ้านไปไม่ได้ เราก็ต้องพิจารณาว่าเราได้อะไรจากเขาบ้าง ไม่ใช่ว่าเขามาซื้อที่ดินแล้วสามารถทำประโยชน์คนเดียวได้เลยโดยเราไม่คิดถึงคนในชาติเลย ก็ไม่ใช่ มันมีรายละเอียดเยอะแยะไปหมด เราก็ไปดูตรงนี้ก่อน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ ถ้าเป็นไปได้ควรพยายามรักษาไว้ให้ยาวที่สุด เช่น ในย่านเยาวราช คนส่วนใหญ่เป็นคนจีนทั้งนั้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำให้ประชาชนมีอยู่มีกินได้ มองว่าสามารถรักษาไว้ด้วยการให้เช่าระยะยาวแล้วให้สิทธิพิเศษหลายด้านแทน ขอยืนยันว่าไม่ได้ต่อต้าน เพราะเป็นของนโยบายแต่ละพรรคที่เห็นต่างกัน ต้องให้ประชาชนตัดสิน จะทำอะไรขอให้รอบคอบ พร้อมกับให้ศึกษาดู ส่วนพรรคสร้างอนาคตไทยไม่มีนโยบายดังกล่าว
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ ตอกย้ำอีกครั้งจากการอนุญาตให้ต่างชาติซื้อที่ดินได้ง่าย โดยอ้างว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะส่งผลกระทบทำให้ที่ดินราคาเพิ่มขึ้นสูง คนไทยส่วนใหญ่ประมาณ 80% ไม่มีที่ดินเป็นของตนเองจะเดือดร้อนและไม่มีปัญญาซื้อที่ดินเป็นของตัวเองได้ ทำให้ถูกโจมตีทั้งโซเชียลอย่างหนักว่าเป็นการขายชาติ ทำให้คนส่วนใหญ่สงสัยกันว่าน่าจะเป็นการขายชาติมากกว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ การที่รัฐบาลอ้างว่าผลการบริหารงานทำให้คนจนและคนว่างงานลดลง ย้อนแย้งกับปริมาณบัตรคนจนที่แจกมากขึ้นถึง 23 ล้านใบ การนับปริมาณคนว่างงานไม่ได้สะท้อนความเป็นจริง
นายพิชัยกล่าวอีกว่า ในช่วงหลังที่ราคาพลังงานมีราคาแพงขึ้นมาก ราคาไฟฟ้าที่พุ่งขึ้นมากถึงหน่วยละ 4.72 บาท มีแนวโน้มที่จะขึ้นต่ออีก สาเหตุมาจากการบริหารเชื้อเพลิงที่ผิดพลาด ส่วนหนึ่งมาจากให้ใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าที่เกินกว่าความจำเป็นมาก ทำให้มีปริมาณการผลิตไฟฟ้าสูงกว่า 50% ทำให้ต้องจ่ายค่าความพร้อมสำหรับโรงงานไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแต่ไม่ได้จ่ายไฟฟ้าเป็นจำนวนที่สูงเดือนละหลายพันล้านบาท ล่าสุดทั้งๆ ที่มีปริมาณการผลิตที่เกิน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ยังจะออกใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าใหม่ถึง 5,203 เมกะวัตต์ จะยิ่งทำให้การผลิตไฟฟ้าที่มีกำลังผลิตล้นอยู่แล้วล้นเพิ่มขึ้นอีก อย่าดำเนินการโดยไม่ได้ศึกษาหรือต้องการแค่จะเอาใจนายทุนเท่านั้น เพราะจากข้อมูลที่ได้รับ มีการล็อกสเปกให้กับผู้ประกอบการบางกลุ่มไว้แล้ว
“มีความขัดแย้งในวงการพลังงานในระดับสูงแทบทุกระดับ จะมีการเปลี่ยนประธานบอร์ด บมจ.ปตท. ทั้งที่เจ้าตัวยังไม่ได้ลาออก และจะลามไปเป็นการเปลี่ยนซีอีโอของ บมจ.ปตท.ด้วย รวมถึงการจะเปลี่ยนปลัดกระทรวงพลังงาน เพราะไม่ตามใจผู้มีอำนาจหรือต้องการเอาใจนายทุนผู้มีอิทธิพลหรือไม่ หากเป็นจริงความเสียหายทางด้านพลังงานจะมีปัญหามากยิ่งขึ้น ก็เป็นการขายชาติทางด้านพลังงานอีกรูปแบบหนึ่ง” นายพิชัยกล่าว
นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่รัฐบาลออกนโยบายขายทรัพย์สินของชาติให้คนต่างประเทศนั้น หากประเทศมีสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและคนในประเทศมีกำลังซื้อที่สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านและต่างประเทศได้ ก็อาจจะเป็นประโยชน์ แต่วันนี้ยังเป็นรองประเทศเพื่อนบ้านมาก เกรงว่านโยบายนี้จะยิ่งทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำของคนในชาติ และยิ่งจะทำให้ต่างชาติเข้ามาตักตวงผลประโยชน์ ในระยะยาวน่าจะมีผลเสียมากกว่าผลดี สุดท้ายจะทำให้ที่ดินและทรัพย์สินแพงขึ้น จนคนไทยที่มีรายได้น้อยจะไม่สามารถเป็นเจ้าของได้ หากในสมัยท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ได้ขับเคลื่อนนโยบาย 2 ล้านๆ เสร็จตั้งแต่ปี 2563 ก็คงจะมีเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาแล้ว
นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ ส.ส.อุบลราชธานี กล่าวว่า ที่ผ่านมาอุบลฯ และพื้นที่อีสานหลายพื้นที่ประสบวิกฤตน้ำท่วม ขณะนี้ถนนหลายสายในจังหวัดอุบลฯ ก็ยังจมน้ำอยู่ ควรอาศัยโอกาสนี้ ในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของภูมิภาค โครงสร้างพื้นฐานที่ดีจะดึงดูดการลงทุน ยังมีอีกหลายวิธีที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและดึงดูดการลงทุน นอกเหนือจากการขายที่ดินให้ต่างชาติ
น.ส.จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. และโฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรค พท. กล่าวว่า ปัจจุบันในหลายพื้นที่มีชาวต่างชาติซื้อที่ดินในไทยแล้ว แต่ใช้คนไทยเป็นนอมินีใส่ชื่อแทนไว้ หากร่างกฎหมายนี้นำมาบังคับใช้ ราคาอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้มีรายได้น้อยและคนรุ่นใหม่ที่พยายามสร้างเนื้อสร้างตัวไม่สามารถมีบ้านและที่ดินเป็นของตนเองได้ อนาคตคนไทยต้องเช่าที่บนแผ่นดินเกิดตัวเองจากชาวต่างชาติ
ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ตนได้ยื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบว่ามติดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 1 หรือไม่ เพื่อส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ มติดังกล่าวสามารถให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนหรือซื้อพันธบัตรในประเทศไทยได้ไม่น้อยกว่า 3 ปี เพราะรัฐบาลต้องการกู้เงินจากนักลงทุนต่างชาติแลกเปลี่ยนกับการซื้อที่ดินในประเทศไทย คิดว่านายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ถ้าสิ้นไร้ไม้ตอกขนาดนี้ ก็อยากให้ทำถูกต้องตามกฎหมาย โดยให้ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐและ ส.ว. 250 คนที่ท่านแต่งตั้งมากับมือ ให้ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 1 โดยเพิ่ม (2) ว่าในกรณีที่ผู้นำประเทศสิ้นไร้ไม้ตอกจนหมดปัญญาหาเงินมาดูแลประเทศให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปได้ จำเป็นที่จะต้องนำแผ่นดินของบรรพบุรุษไปแบ่งขายได้เพื่อแลกกับเงินลงทุนของต่างประเทศ ก็สามารถขายที่ดินให้ชาวต่างชาติได้
นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ในวันที่ 4 พ.ย. ตนจะรวบรวมผู้เสียหายเบื้องต้นจำนวน 20 คน ไปยื่นต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ระงับยับยั้งมติ ครม. ให้คุ้มครองชั่วคราวมติ ครม.ดังกล่าว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยถึงที่สุด จากนั้นจะทำหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขออนุญาตในการรณรงค์ล่ารายชื่อประชาชนที่คัดค้านการขายที่ดินให้ต่างชาติ
ขณะที่นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ออกเเถลงการณ์ค้านกฎหมายขายที่ดินให้ต่างชาติ โดยระบุว่า ไม่ได้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลอ้าง แต่จะกลายเป็นการเก็งกำไรแทนการลงทุน นำมาซึ่งความขัดแย้งของคนในชาติ จะกลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง.