ภูมิภาค
นายก อบจ.โคราชป้ายแดง ชู 4 นโยบายหลัก ลุยงานทันที
วันอังคาร ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2564, 14.33 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
วันที่ 26 ม.ค. 2564 ที่ห้องรับรอง อบจ.นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ป้ายแดง เปิดเผยถึงการประชุมแถลงนโยบายวิสัยทัศน์การบริหารงานต่อสภา อบจ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้(25 ม.ค.2564) ว่า การประชุมของฝ่ายบริหารครั้งแรกเป็นไปได้ความเรียบร้อย ซึ่งเป็นการประชุมสมัยวิสามัญ สมัยที่ 1 ครั้งที่ 1 / 2564 ที่มีนายรักชาติ กิริวัฒนศักดิ์ ส.อบจ.สูงเนิน ทำหน้าที่ประธานสภา อบจ. และ ส.อบจ.เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียงครบทุกคน โดยมีนโยบายหลัก 4 ข้อ อาทิ 1.โครงการตามแนวทางพระราชดำริ , 2.นโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนรากหญ้าด้วยความเท่าเทียม คำนึงถึงประโยชน์ของพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน , 3.นโยบายด้านพัฒนาเศรษฐกิจ และ 4.นโยบายด้านการพัฒนาเมือง ซึ่งตนได้ขอให้สภาฯ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมาเชื่อมั่นว่า ตนจะใช้ความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ ประกอบกับศักยภาพทีมบริหารฯ ทุกคน เราจะนำพาจังหวัดนครราชสีมาสู่การพัฒนาให้เจริญก้าวหน้า โดยตั้งมั่นอยู่บนพื้นฐานของการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส มีธรรมาภิบาล เพื่อวางรากฐานการพัฒนาให้จังหวัดนครราชสีมา ก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ตนยืนดีสนับสนุนทุกหน่วยงาน สิ่งไหนที่มีประโยชน์กับพี่น้องประชาชน อบจ.เรายินดีส่งเสริมอย่างเป็นรูปธรรมและสนับสนุนเต็มที่ และอยากขอบคุณพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกกำลังใจทุกคะแนนเสียงที่ได้ไว้วางไว้เลือกให้ตนเข้ามาบริหารท้องถิ่นของบ้านเรา ตนจะจั้งใจในการทำหน้าที่ และยินดีส่งเสริมสนับสนุนพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะโครงการสำคัญของตำรวจภูธรภาค 3 เรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นโครงการที่ดี เพราะเด็ก เยาวชนตลอดจนผู้ใหญ่ คนในชุมชนหมู่บ้านจะได้ร่วมกันรณรงค์แก้ไข ช่วยกันสอดส่องดูแลร่วมกับภาครัฐ
ทั้งนี้ได้มีทางพล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 พร้อมด้วยผู้ใต้บังบัญชาระดับ รอง ผบก. , ผกก. ได้เดินทางมาร่วมหารือข้อราชการในการร่วมไม้ร่วมมือการทำงานเพื่อพัฒนาบ้านเมือง การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย การดูแลความปลอดภัย บำบัดทุกข์ บำรุงสุข การป้องกันและปราบปรามอาญากรรม อบายมุข ให้กับประชาชน และยังได้มอบกระเช้าดอกไม้ รูปหล่อท้าวสุรนารี(คุณย่าโม) ในโอกาสที่ตนได้รับความไว้วางใจเป็นฉันทานุมัติจากพี่น้องประชาชาว จ.นครราชสีมาให้ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา นางยลดาฯกล่าว
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 กล่าวว่า ตนได้มาหารือข้อราชการกับท่าน ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ขอความร่วมมือช่วยการสอดส่องดูแลในพื้นที่ นอกจากนี้ก็ร่วมแสดงความดีใจกับนายก อบจ. ซึ่งได้หารือเรื่องปัญหายาเสพติด การป้องกัน การแพร่ระบาดต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนถือเป็นวาระแห่งชาติตามนโยบายของรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รวมทั้งนโยบายของ ตร. โดยพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ซึ่งขณะนี้ยาเสพติดมีการระบาดลงไปสู่รากหญ้าแล้ว โดย จ.นครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ 32 อำเภอเราก็ช่วยกันทำงาน และตำรวจเองก็มีโครงการดีๆหลายโครงการ เช่น โครงการปักกรด เพื่อจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปในพื้นที่ เพีงแต่งบประมาณเท่านั้นที่เรามีข้อจำกัด จึงได้มาเรียนต่อ นายก อบจ.นครราชสีมาในการสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้ตำรวจได้ลงไปในพื้นที่
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ฯ กล่าวถึงยาเสพติดรุ่นใหม่ที่มีฤทธิ์แรงมากถึงขั้นเสียชีวิต ในพื้นที่ ตร.ภ. 3 ว่า ในพื้นที่ ตร.ภ.3 ยังไม่ปรากฏว่ามีใครนำยาที่กำลังเป็นข่างขณะนี้เข้ามาเสพ ส่วนหนึ่งยาพวกนี้อาจจะระบาดในชุมชนซึ่งจะมางานปาร์ตี้เป็นหลัก ส่วน ตร.ภาค 3 พื้นที่ 8 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา,ชัยภูมิ,บุรีรัมย์,สุรินทร์,ศรีสะเกษ,อุบลราชธานี,อำนาจเจริญและยโสธร ช่วงนี้มีสถานการณ์โควิด-19 ด้วยและทางฝ่ายปกครอง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดฯทุกจังหวัดก็มีการออกคำสั่งมาตรการว่าจะมีการจัดงานหรือรวมกลุ่มชุมชนได้ต้องมีการขออนุญาติ ฉะนั้นในช่วงนี้ใน ตร.ภ.3 ไม่มีการแพร่ระบาดยาเสพติด มีแต่การจีบยาเสพติดรายใหญ่ๆ ซึ่งตั้งแต่ตนมารับตำแหน่งมีการจับรายใหญ่ได้ 3-4 ได้ของกลางเกือบ 5 ล้านเม็ด ยาไอซ์เกือบ 500 กก. โดยวันที่ 29 ม.ค. 2564 จะมีการหารือกับทางแม่ทัพภาคที่ 2 , กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , ตร.ภ.4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ ตร.ภ.3 เพื่อมาวางมาตรการร่วมกันเพื่อจะสกัดกั้นไม่ให้ยาบ้าและยาไอซ์เข้มาในเขตพื้นที่ตอนในของเรา โดยยาเสพติดที่เข้ามาไม่ได้มาในเขตพื้นที่ ตร.ภาค 3 ไม่ได้มาจากเขต จ.อำนาจเจริญ แต่ยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไม่ได้มาในเขตของกองกำลังสุรนารี โดยเข้ามาในเขตพื้นที่อีสานตอนบน
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่