“กุสุมาลวตี ศิริโกมุท” ยินดี หลังภูมิใจไทยประกาศฟ้อง บอกเล่นงานใหญ่ถึงยุบพรรคก็ต้องระวังตัว ขอคุ้มครองพยานแล้ว ลั่น รู้ว่าจะเจอกับอะไร แต่กล้าชนก็ต้องกล้าเจ็บ ชิงฟ้อง “อนุทิน-สุขสมรวย” ปมด้อยค่า 23 พ.ค.นี้
วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เตรียมยื่นฟ้องกรณีกล่าวหาบิดเบือนทำให้เกิดความเสียหายว่า ยินดี เพราะตนได้เตรียมอยู่แล้วว่าเมื่อมายื่น และเล่นงานใหญ่คือถึงขั้นยุบพรรค ดังนั้นกระบวนการยุบพรรคจะต้องมีสมาชิกที่เป็นเดือดเป็นร้อนก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งตนก็เตรียมตัว ดูเอกสารตัวเองและดูข้อมูล จึงไม่กลัว ในเมื่อเรากล้าที่จะชน ก็กล้าที่จะเจ็บ และรู้ว่าจะเจอกับอะไร แต่ก็มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมและมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำว่าทำเพื่อปกป้องประชาธิปไตย และทั้งหมดเป็นประจักษ์พยานด้วยว่ากระบวนการนี้ช็อกโลก ช็อกประชาชนคนไทย มีเส้นทางการเงินและมีจำเลยมากมายรวมถึงคนที่จะฟ้องตนก็อยู่ในกระบวนการที่ได้มีการสืบสวนสอบสวนและมีข้อมูลชัดเจนแน่นหนาพอสมควร ที่ทำให้มีความกล้าที่จะมายื่นตรงนี้
ส่วนการที่ไปส่งกับสื่อว่าตนไปพูดขอ ทั้งที่ตนไม่ได้ไปพูดหรือขออะไรเลย ตนจึงคิดว่าการทำเช่นนี้ตนจะฟ้อง ซึ่งตอนนี้ก็ได้เตรียมทนายความไว้แล้วจะฟ้องในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ ฟ้องนางสุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ พรรคภูมิใจไทย และนายอนุทิน ข้อหาหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา เพราะล่าสุดได้มีหลายประเด็นที่ดูถูกด้อยค่าตน จึงจะรวมเป็นเรื่องเดียวกันฟ้องพร้อมกัน ต้องบอกว่าตนฟ้องใครไม่เคยแพ้ ขอบอกว่าไม่ได้เป็นการชิงฟ้องก่อน แต่ตั้งใจจะฟ้องอยู่แล้ว และไม่กลัวอยู่แล้วเพราะเราทำถูก คนทำถูกไม่กลัวคนทำผิด คนทำผิดแล้วมาฟ้องคนทำถูกก็ไม่เป็นไร ฟ้องเลย
ผู้สื่อข่าวถามต่อที่อุทานว่า “จะตายดีไหมเนี่ย” หมายความว่าอย่างไร นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า ต้องคิดถึงเรื่องอิทธิพลและอำนาจที่เข้ามาหลายอย่าง ต้องเข้าใจว่าสีน้ำเงินคืออะไร และผู้มีอิทธิพลคืออะไร โหดเลวแต่ไม่มีดีก็มี ฉะนั้นก็ต้องระวังตัว ซึ่งตนได้ขอคุ้มครองพยานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้ว และคิดว่าหากเราทำดี เปิดหน้าชน บางครั้งเขาก็ไม่กล้า แต่ถ้าหลบซ่อนก็อาจจะกล้า ถ้าเราตายไปหรือมีอุบัติเหตุ ทุกคนก็จงเชื่อว่ามันเกิดจากอีกฝั่งหนึ่ง
“ฉะนั้นพี่ไม่กลัว ตายก็ไม่กลัว เรื่องที่ฟ้องพี่ก็ไม่กลัวอยู่แล้ว การพูดในที่สาธารณะก็ไม่ผิด ตรงนี้มั่นใจว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้องแล้ว”
