ผบช.ภ.3 จับ กอ.รมน.ภาค2 ปปส.ภาค3 จัดโครงการชุมชนยั่งยืน แก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร เพื่อสร้างชุมชนเข้มแข็ง มีส่วนร่วมแก้ไข ติดตาม ช่วยเหลือ พร้อมออกเยี่ยมโรงพักที่เริ่ม ปลื้มได้ผลดีเกินคาด หลังมีผู้สมัครใจเข้าร่วมจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 28 พ.ค.64 ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า จากที่ตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กองทัพภาคที่ 2 สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 3 พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แรงงานจังหวัด องค์ปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และชมรมเสริมสร้างพลังเครือข่ายชุมชนไทยได้จัดโครงการ แก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ตำรวจภูธรภาค 3 ได้ดำเนินการเป็นภาคแรกของประเทศตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาและดำเนินงานชุมชนยั่งยืน ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ และการบำบัดผู้ยาเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน และเพื่อสร้างรูปแบบการดำเนินงานชุมชนเข้มแข็งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน
โดย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ได้จัดตั้งคณะทำงานชุดปฏิบัติการเข้าดำเนินการในหมู่บ้านเป้าหมาย บูรณาการการทำงานร่วมกับส่วนราชการเกี่ยวข้องในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 จำนวน 236 สถานี เป็นระยะเวลา 3 เดือน มอบหมายให้ทุกสถานีแต่งตั้งชุดปฏิบัติการบูรณาการปฏิบัติงาน คณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการบูรณาการ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปกครอง สาธารณสุข ศึกษาธิการ แรงงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในพื้นที่ มีการลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการ มอบหมายหน้าที่ในการทำงานให้ครอบคลุม ชัดเจนทุกด้าน เข้าพื้นที่ประจำการในหมู่บ้าน ชุมชนเพื่อดำเนินการ แสวงหาความร่วมมือจากชุมชนโดยการจัดตั้งคณะกรรมการประจำหมู่บ้าน คณะกรรมการประจำคุ้มเป็นชุดทำงานและให้ความร่วมมือพร้อมสนับสนุนการทำงานของชุดปฏิบัติการ
มีการจัดตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองบุคคล ครัวเรือน ทำการกลั่นกรองและรับรองบุคคลและครัวเรือน ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด การค้นหาผู้เสพ ผู้เกี่ยวข้องเพื่อเข้ากระบวนการชุมชนบำบัด กำหนดรูปแบบการคัดกรอง และรูปแบบการเอกซเรย์ผู้เสพ โดยโครงการมุ่งเน้นที่จะค้นหาผู้เสพ ทุกคน (เอกซเรย์ 100%) การดำเนินการกับผู้เสพและผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือเพื่อให้ชุมชนได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในการบำบัดตามหลัก CBTX และชุมชนบำบัดค้นหาปัญหา และการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ติดตาม ช่วยเหลือ เยี่ยมบ้าน สร้างกฎชุมชน ฟื้นฟูสังคม ดำรงความเข้มแข็ง เฝ้าระวัง และติดตามประเมินผล
สำหรับผลการปฏิบัติโครงการดังกล่าว ข้อมูลล่าสุดถึงวันที่ 24 พ.ค. มีผู้เข้ารับการบำบัดในโครงการทั้งหมด 2,096 คน จากพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง ได้แก่ จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 โดยมีประชากรทั้งหมดในชุมชนในโครงการ จำนวน 157,383 คน พร้อมทั้งได้ลงนามบันทึกข้อตกลงแล้ว 37,703 ครัวเรือน และได้ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดทั้งหมด 42,514 คน ทั้งนี้ผลของการค้นหาผู้เสพยาเสพติด ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสพจำนวน 1,665 คน และผู้ค้าจำนวน 48 คน โดยในโครงการนี้มีผู้สมัครใจในการเข้ารับบำบัดยาเสพติด 550 คน
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยอีกว่า ผลการปฏิบัติการตามโครงการดังกล่าว ได้ผลเกินคาด วางอนาคตผลักดันสานต่อยั่งยืน โดยตนเองได้เดินทางเข้าพบ ผวจ. นายก อบจ. ผู้นำท้องถิ่นทั้ง 8 จังหวัดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 ได้รับการสนับสนุนโครงการดังกล่าวอย่างดี พร้อมช่วยเหลือสนับสนุนงบประมาณ ยืนยันว่าผู้ค้ายาเสพติดต้องไม่มีที่ยืนในพื้นที่ แล้วยังได้ฝากไปถึงพ่อแม่ผู้ปกครองให้มีความมั่นใจว่าทางเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะรับลูกหลานของท่านเข้ามาดูแลในระยะเวลา 3 เดือน จะเปลี่ยนแปลงไม่ให้เสพยาเสพติด และได้รับการฝึกฝนมีองค์ความรู้ด้านต่างๆ กลับไปเป็นบุคลากรที่ดีของชาติและเป็นกำลังของประเทศต่อไป.