สรุปให้ที่นี่ข้อมูลรายจังหวัด เทศกาลสงกรานต์ 2564 นี้ เดินทางจากจังหวัดไหน ไปจังหวัดไหนต้องกักตัว รายงานตัว หรือ มีมาตรการเข้มอย่างไร
จากกรณีสถานการณ์ระบาดอีกครั้งของเชื้อโควิด-19 ซึ่งพอดีจังหวะช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 พอดิบพอดี “ฐานเศรษฐกิจ” จึงรวบรวมข้อมูล (ณ วันที่ 8 เมษายน 2564) อัพเดทเงื่อนไขการเดินทางข้ามจังหวัด จากจังหวัดไหน ไปจังหวัดไหน ที่จะต้องเจอมาตรการกักตัวในพื้นที่ปลายทาง หรือ ต้องรายงานตัว หรือ มีมาตรการเข้มอย่างไรที่มีความแตกต่างกันบ้าง ดังนี้
นครราชสีมา หรือ โคราช
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา ระบุว่า ผู้ว่าโคราช ออกประกาศคุมเข้ม สำหรับ ปชช.5จว.พื้นที่สีแดง ประกอบด้วย กทม ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และนครปฐม ที่จะเดินทางเข้าโคราช แบบค้างคืน ทั้งที่บ้านพัก หรือโรงแรม รีสอร์ท อพาร์ตเม้น สามารถเดินทางได้ ไม่ต้องกักตัว 14 วัน แต่ห้ามไปในสถานที่ชุมชน เช่น สถานที่ท่องเที่ยว สถานบันเทิง ตลาด พร้อมต้องรายงานตัวกับผู้นำชุมชนภายใน 12 ชม.เมื่อมาถึง สำหรับ ปชช.พื้นที่สีแดง ที่เดินทางแบบไป-กลับ ต้องรายงานตัวกับผู้นำชุมชนหรือส่วนราชการที่ไปติดต่อเพื่อตรวจวัดไข้เมื่อทำธุระเสร็จให้รีบเดินทางกลับทันทีโดยห้ามแวะไปในสถานที่ชุมชน
ส่วน ปชช.ใน จ.นครราชสีมา ที่มีความประสงค์จะเดินทางไปยัง 5 จังหวัดพื้นที่สีแดง ต้องแสดงเหตุผลความจำเป็นในการเดินทาง และได้รับอนุญาตต่อทางส่วนราชการ กำนัน ผญบ. ปลัดอำเภอ หรือนายอำเภอ ก่อนเดินทาง
ทุกกรณีต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า เว้นระยะห่างทางสังคม ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดตลอดระะยะเวลาที่อยู่ใน จ.นครราชสีมา หากฝ่าฝืนดำเนินคดีตามกฎหมายทันที เริ่ม 7 เมษายน 2564
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2564 จังหวัดขอนแก่น ขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดง 5จังหวัด คือกทม. นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ให้รายงานตัวและกักตัวเองที่บ้าน ในช่วงเวลาที่อยู่ในพื้นที่ขอนแก่น
โดยมีขั้นตอนคือ 1. เข้ารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ หรือลงทะเบียนผ่าน QR code 2. ให้กักตัวที่บ้านในระหว่างที่อยู่ในพื้นที่ขอนแก่น
นอกจากนี้ทางจังหวัดขอนแก่นเปิดสายด่วนโควิดเพื่อรองรับการติดต่อสอบถามจากประชาชน เบอร์ 0979597675 และ 0885527388
จังหวัดสกลนคร
วันที่ 8 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสกลนคร นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ผวจ.สกลนคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสกลนคร เพื่อพิจารณากำหนดมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด–19 ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2564 ในพื้นที่จังหวัดสกลนคร
โดยที่ประชุมมีมติให้ผู้ที่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อภายใน 14 วัน ผู้ที่มีประวัติเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง ประกอบด้วย จังหวัดสมุทรสาคร ได้แก่ อำเภอกระทุ่มแบน อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดปทุมธานี ได้แก่ อำเภอธัญบุรี อำเภอลำลูกกา กรุงเทพมหานคร ได้แก่ เขตบางแค เขตภาษีเจริญ เขตวัฒนา เขตคลองเตย เขตบางขุนเทียน จังหวัดสมุทรปราการ ได้แก่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ และจังหวัดนนทบุรี ได้แก่ อำเภอบางใหญ่ ที่เข้ามาในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ต้องลงทะเบียนรายงานตัวทางแอพพลิเคชั่นไลน์“ระบบรายงานตัวเข้าสกลนคร” โดยสแกนคิวอาร์โค้ด ผ่านสมาร์ทโฟน หรือรายงานตัวต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชน อสม. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ที่ผู้เดินทางจะไปพำนักโดยทันที เพื่อเข้ารับการกักตัว 10 วัน ณ ที่พักอาศัย และพิจารณาตรวจหาเชื้อของโรคโควิด – 19
ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมอีก 9 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร (เขตที่เหลือ) สมุทรสาคร สมุทรปราการ สมุทรสงครามนนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี ราชบุรี และตาก ให้ลงทะเบียนรายงานตัวทางแอพพลิเคชั่นไลน์“ระบบรายงานตัวเข้าสกลนคร” โดยสแกนคิวอาร์โค้ด ผ่านสมาร์ทโฟน หรือรายงานตัวต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชน อสม. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ผู้เดินทางจะไปพำนักโดยทันที เพื่อประเมินว่ามีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโรคโควิด-19 หรือไม่ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ต่อไป
จังหวัดบุรีรัมย์
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ประกาศเรื่อง การป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564 ข้อมูล ณ วันที่ 6 เม.ย. 2564 โดยมีสาระสำคัญที่ท่านต้องทราบและปฏิบัติ ดังนี้ ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดง ได้แก่ กรุงเทพ ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม นนทบุรี
- ต้องกักตัว 14 วัน หรือขอตรวจ Rapid test ที่ รพ.บุรีรัมย์ หากผลเป็นลบไม่ต้องกักตัว (ผู้ขอตรวจชำระค่าใช้จ่าย 600 บาท)
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งผ่านกระบวนการ State Quaratine แล้ว ไม่ต้องกักตัวอีก
- จังหวัดอื่นๆ ไม่ต้องกักตัว ไม่ต้องไปตรวจ Rapid Test
จังหวัดอุดรธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานี ออกประกาศจังหวัดอุดรธานี มาตรการป้องกันและควบคุมโรค covid 19 #อุดรธานีไม่กักตัว
จังหวัดบึงกาฬ
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ประกาศว่าผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดง ได้แก่ กรุงเทพ ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม นนทบุรี ต้องกักตัว โดยกักที่ใดขึ้นอยู่กับพิจารณาคณะกรรมการโรคติดต่อ/เจ้าหน้าที่/ผู้นำชุมชน/อสม.
จังหวัดร้อยเอ็ด
ร้อยเอ็ดต้องรอด ท่านที่เดินทางเข้ามาในร้อยเอ็ด ขอให้รายงานตัวกับผู้นำชุมชนหรือ จนท.สาธารณสุข คัดกรองความเสี่ยงเพื่อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด เราต้องร่วมใจร้อยเอ็ดจึงจะรอด

จังหวัดลำปาง
ศูนย์ข้อมูล Covid-19 จังหวัดลำปาง ระบุว่า เดินทางเข้า”ลำปาง”ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนอย่าง”เคร่งครัด”#SAVELAMPANG
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีมาตรการควบคุมผู้ที่มาจากพื้นที่ระบาด ตามภาพ โดยผู้ที่อยู่ในพื้นที่นี้เท่านั้นที่ต้องกักตัวแลัตรวจโควิด( ไม่ได้ครอบคลุมทั้งจังหวัดตามที่มีสื่อทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน)สถานที่ที่มีการระบาดสูงสุด วันที่ 8 เมษายน 2564 ปรับปรุงพื้นที่ระบาด เพิ่มพื้นที่ผับ บาร์ ในจังหวัดต่างๆ
จังหวัดเพชรบูรณ์
ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์ ประกาศคำสั่งจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีข้อความคือ ผับบาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายสถานบริการ สถานบันเทิงที่มีสถานที่เปิดให้บริการในลักษณะเป็นสถานที่ปิด ให้ปิดตั้งแต่วันที่ 9 – 15 เมษายน 2564
ผู้ที่เดินมาจากจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม และสมุทรปราการ ต้องกักตัว 14 วัน ผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท งดรับนักท่องเที่ยวจากจังหวัดสีแดง ระหว่างวันที่ 9-15 เมษายน 2564
จังหวัดชุมพร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร ระบุว่า จังหวัดชุมพรออกคำสั่งยกระดับการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาด covid-19 วันที่ 7 เมษายน 2564 นายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดชุมพรที่ 1113/2564 เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในด้านการเดินทาง มาตรการส่วนบุคคลและมาตรการครัวเรือน
คำสั่งระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยยังคงเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่คุกคามความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของประชาชน มีการแพร่ระบาดออกไปยังหลายจังหวัดและมีความเสี่ยงสูงที่จะแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ ประกอบกับคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ 3/2564 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ได้จำแนกเขตพื้นที่สถานการณ์ใหม่ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น โดยกำหนดให้จังหวัดชุมพรเป็นเขตพื้นที่เฝ้าระวังสูง
จังหวัดชุมพรจึงยกระดับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมสามารถขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการดำเนินมาตรการด้านสาธารณสุข โดยมุ่งถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ
คำสั่งดังกล่าวได้กำหนดข้อปฏิบัติ ดังนี้
1. สำหรับประชาชนที่เดินทางจากพื้นที่อื่นเข้ามาในพื้นที่จังหวัดชุมพร ต้องกรอกข้อมูลประเมินความเสี่ยงแก่หน่วยรับบริการสาธารณสุขในจังหวัดชุมพร โดยการสแกน QR Code ผ่านระบบ Google form “save Chumphon” เพื่อการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจะดำเนินการสอบสวนโรคเพื่อพิจารณาความเสี่ยงของบุคคล หากเจ้าพนักงานวินิจฉัยแล้วมีความเห็นว่าบุคคลดังกล่าวเข้าเกณฑ์เป็นผู้มีความเสี่ยง เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจะออกคำสั่งให้บุคคลดังกล่าวกักตัว 14 วัน และเข้ารับการตรวจหาสาร พันธุกรรมเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทุกราย หากวินิจฉัยแล้วมีความเห็นว่าไม่เข้าเกณฑ์เป็นผู้ที่มีความเสี่ยง ต้องสังเกตอาการตนเองเป็นเวลา 14 วัน หากพบว่ามีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อยหรือหายใจลำบาก ให้แจ้งแก่หน่วยรับบริการสาธารณสุขใกล้บ้านในจังหวัดชุมพร ทันที
2. ให้ประชาชนและผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดชุมพรเคร่งครัดตามแนวทางมาตรการส่วนบุคคล และมาตรการครัวเรือนในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
โดยมาตรการส่วนบุคคล ให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกคนทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน มั่นล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอเจล รักษาระยะห่างทางสังคมอย่างน้อย 1 เมตร ทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือเข้าไปยังสถานที่แออัดและมีคนจำนวนมาก รับการให้คำแนะนำในการติดตั้งใช้ Application ไทยชนะ และหมอชนะ ในการสแกนคิวอาร์โค้ดเข้าออกพื้นที่ต่างๆ และการประเมินความเสี่ยงของตนเอง
มาตรการครัวเรือน ให้แยกพื้นที่ให้ผู้สูงอายุผู้ป่วยโรคเรื้อรังภายในครัวเรือน มั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลก่อนรับประทานอาหาร หลังใช้ส้วม หรือหลังสัมผัสจุดเสี่ยงที่มีผู้ใช้งานร่วมกัน เช่น กลอน หรือลูกบิดประตู ราวจับหรือราวบันได เป็นต้น รักษาระยะห่างระหว่างบุคคลในบ้าน และสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่อต้องอยู่ใกล้กัน ทำความสะอาดพื้นที่ผิวสัมผัสและข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเป็นประจำทุกวัน หากรับประทานอาหารร่วมกันให้ใช้ช้อนกลางส่วนตัว
ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการฉุกเฉินพ. ศ. 2548 และต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาทตามมาตรา 51 หรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2564 เป็นต้นไป
จังหวัดมุกดาหาร
มุกดาหารแบ่งจังหวัดและพื้นที่ค่อนข้างละเอียดได้แก่
1.กรุงเทพฯ เขตบางแค ภาษีเจริญ บางขุนเทียน วัฒนา(ย่านทองหล่อ เอกมัย) คลองเตย
2.ปทุมธานี อ.ธัญบุรี อ.ลำลูกกา
3.นนทบุรี อ.บางใหญ่
4.สมุทรปราการ อ.เมือง
5.นครปฐม อ.พุทธมณฑล
6.ตาก อ.แม่สอด
7.สมุทรสาคร อ.เมือง อ.กระทุ่มแบน อ.บ้านแพ้ว
8.พื้นที่เสี่ยงอื่นๆที่มีผู้ติดเชื้อภายใน 14 วัน
หากมาจากพื้นที่ดังกล่าวเมื่อถึงจังหวัดมุกดาหารให้สแกนคิวอาร์โค้ด Data Muk จากนั้นให้รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ ให้กักตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน สอบสวนโรคโดย เจ้าพนักงาน
จังหวัดอำนาจเจริญ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอำนาจเจริญ วันนี้ ( 7 เมษายน 2564 ) เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ นายทวีป บุตรโพธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอำนาจเจริญ ครั้งที่ 5/2564 โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ และคณะกรรมการโรคติดต่อ เข้าประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน
ในวันนี้จังหวัดอำนาจเจริญ ได้มีมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพิ่มเติม (ฉบับที่8) รวมทั้ง มาตรการควบคุมผู้ที่เดินทางมาพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ให้ประชาชนที่เดินทางมาจากจังหวัด และอำเภอ ตามที่ ศบค.กำหนด ที่เป็นพื้นที่ควบคุมให้รายงานตัวต่อ เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม.ในพื้นที่ และให้กักตนเอง เป็นระยะเวลา 14 วัน และประชาชนที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่ผ่านการกักตัวครบ 14 วันแล้ว เมื่อเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญจะต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่และกักตัวเอง 14 วัน
หากบุคลใดทราบว่าได้เคยเดินทางไปพื้นที่หรือสถานที่ที่มีการติดเชื้อหรือมีการแพร่ระบาด ขอให้กักตัวเองและหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบุคคลอื่นเป็นระยะเวลา 14 วัน หากมีอาการผิดปกติขอให้ไปพบแพทย์ ณ โรงพยาบาลใกล้บ้านและต้องให้ข้อมูลที่แท้จริงกับแพทย์ นอกจากนี้ จังหวัดอำนาจเจริญ ได้เตรียมความพร้อมให้การให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของโรงพยาบาลอำนาจเจริญ และโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง รอบเดือนเมษายน 2564 ซึ่งกลุ่มเป้าหมาย รอบที่1 ประกอบด้วย บุคลากรทางการแพทย์ และ อสม.
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ได้ขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมทั้งประชาชนชาวจังหวัดอำนาจเจริญ ให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า เวลาออกจากบ้านและเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และการเว้นระยะห่างเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และรักษาสุขภาพร่างกายตามสุขอนามัย
จังหวัดพิษณุโลก
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก ยกระดับผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุม 5 จังหวัด
มติคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดพิษณุโลก วันที่ 7 เมษายน 2564 ออกประกาศ ให้ผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุม 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม และนนทบุรี ต้องเข้าระบบเฝ้าระวังรายงานตัวใน Save Phitsanulok ไทยชนะ หมอชนะ และให้อยู่ที่บ้าน สังเกตุอาการตนเอง หลีกเลี่ยงเดินทางไปในที่ชุมนุม เพื่อเฝ้าระวังป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19
ลงทะเบียนเข้าจังหวัดพิษณุโลก
ผู้ที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้รายงานตรวจต่อเจ้าหน้าที่ ให้กักกัน ที่บ้านพัก พื้นที่อื่นๆมีการคุมสังเกตที่บ้านพัก ปฏิบัติตามข้อกำหนดของจังหวัดอย่างเข้มงวด
จังหวัดสงขลา
จังหวัดที่ต้องกักตัวได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ กรุงเทพฯ(เขตวัฒนา คลองเตย บางแค) จังหวัดดังกล่าวต้องกักตัว 14 วัน
จังหวัดและเขตอื่นๆ ดูแลตัวเองโดยการกักตัว 14 วัน ดูรายละเอียดเพิ่มที่ ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
จังหวัดสุราษฎร์ธานี
แฟจเพจ PR.Surat สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระบุว่า 8 เมษายน 2564 มติคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีมติเดินทางเข้าสุราษฎร์ธานี
ไม่ต้องกักตัว แต่ให้ปฏิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขและศบค.อย่างเคร่งครัด
D-เว้นระยะห่าง- M-สวมหน้ากากอนามัย H-ล้างมือบ่อยๆ T ตรวจวัดอุณหภูมิ T ใช้แอปพลิเคชั่น ไทยชนะ- หมอชนะ
นอกจากนี้ยังมี ประกาศ ศปก.อ.เกาะสมุย ณ วันที่ 8 เมษายน 2564 กำหนดพื้นที่เสี่ยงสูงสุดตามหลักระบาดวิทยาที่ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR ทุกรายที่เดินทางเข้าเกาะสมุย คือ
1.กรุงเทพมหานคร เฉพาะเขตบางแค เขตวัฒนา และเขตคลองเตย
2.จังหวัดสมุทรสาคร เฉพาะอำเภอเมืองสมุทรสาคร
โดยระหว่างรอผลต้องแยกตัวอยู่ในที่พัก และถ้าผลตรวจไม่พบเชื้อก็สามารถท่องเที่ยวในเกาะสมุยได้ตามแนวทางที่ ศปก.อ.กำหนด
ส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานคร(เขตอื่นๆนอกจาก 3 เขตที่กำหนด) จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครปฐมและจังหวัดสมุทรสาคร (อำเภออื่นๆ ยกเว้นอำเภอเมืองฯ) ให้เฝ้าสังเกตุอาการและรายงานสุขภาพตามแบบรายงานที่กำหนด ตามระยะเวลาที่อยู่ในเกาะสมุย หรือจนครบ 14 วัน โดยไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19
ยกเว้นพบมีอาการผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) ให้ส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ณ โรงพยาบาลเกาะสมุยทันที โดยให้ถือปฎิบัติตั้งแต่ วันที่ 9 เมษายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะประกาศเปลี่ยนแปลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ชัดแล้ว ศบค.ไม่ประกาศ 5 จังหวัด เป็นพื้นที่สีแดง
- สรุปไม่มี “พื้นที่สีแดง” มีแค่3สี “ส้ม-เหลือง-เขียว” สงกรานต์2564 แต่ละจังหวัดทำอะไรได้บ้าง
- เปิดโทษ “ปกปิดข้อมูลโควิด” วีไอพีใหญ่กว่ากฎหมายได้ไหมหนอ?
- เปิดคำชี้แจง “ผอ.หลักสูตร DTC” พร้อมระบุ “ไทม์ไลน์” ผู้อบรมผู้ติดเชื้อโควิด19
- เศรษฐกิจ-โควิดรุมเร้า “นายกฯ” ยันไม่ล็อกดาวน์ ลั่น “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”
