เมื่อเวลา 10. 30 น. วันที่ 31 มีนาคม 2564 พ.ต.อ. อำนาจ ปาเส สว.(สอบสวน) สภ.ชานุมาน จ. อำนาจเจริญ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากนายทองเหลียน พันธมาศ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต. ป่าก่อ อ.ชานุมาน ว่ามีพ่อเฒ่าวัย 72 ถูกฆ่าและพ่อเฒ่าวัย 70 ผูกคอตายบ้านเลขที่ 14 ม. 6 ต.ป่าก่อ อ. ชานุมาน จ. อำนาจเจริญ จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ. ชานุมานไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบร่างของนายอั้ง เนตรรักษ์ พ่อเฒ่าวัย 70 เจ้าของบ้าน ใช้เชือกไนล่อนผูกคอตายข้างบันไดใต้ถุนบ้าน และพบศพนายเคน เนตรรักษ์ พ่อเฒ่าวัย 72 ปี พี่ชายของนายอั้ง นอนคว่ำหน้ามีเลือดแห้งเกรอะกรังในห้องนอน ข้างศพยังพบค้อนหงอนและสากกะเบือไม้ยูงตกอยู่
© สนับสนุนโดย Nation Channel
จากการสอบสวนเบื้องต้นจากนายสนิท ฤทธิภักดี อายุ 55 ปีบ้านเลขที่ 81/1 ม. 7 ต.ยางหาด อ. ปากท่อ จ. ราชบุรี บุตรเขย ทราบว่าทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน ซึ่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว นายเคนเคยไปบวชที่สำนักสงฆ์พุปะหัง จ.ราชบุรี เมื่อปีที่แล้วได้สึกขาลาเพศกลับมาอยู่บ้านกับนายอั้ง น้องชาย ซึ่งเคยมีสวนยางนับ 10 ไร่แต่ได้ขายไปมีเงินฝากนับ 1 ล้าน แต่ถูกสาววัยรุ่นในหมู่บ้านหลอกนำเอาบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินจนเกลี้ยง อาจจะเป็นสาเหตุให้นายอั้ง เครียดดื่มเหล้าจนเมามายทุกวัน พอกลับมาถึงบ้านก็พาลพี่ชายจนเกิดถกเถียงทะเลาะกันเป็นประจำ
เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา นายอั้ง ได้โทรศัพท์ไปบอกตนว่าพี่ชายได้เสียชีวิตแล้ว ต่อมาตนได้โทรศัพท์ติดต่อมาแต่ไม่รับโทรศัพท์ คาดว่านายอั้งเมื่อเห็นว่าพี่ชายตายเพราะตนฆ่าอาจหวั่นเกรงจะมีความผิด จึงตัดสินใจผูกคอตายเพื่อหนีความผิด จากนั้นทางตำรวจจึงมอบศพให้กับญาติๆนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลพร้อมกันที่วัดในหมู่บ้านเตรียมฌาปนกิจศพ ท่ามกลางความรันทดใจจากญาติๆและชาวบ้าน
© สนับสนุนโดย Nation Channel
นางวิไล พันธ์แก้ว อายุ 78 ปี อดีตภรรยา ของนายอั้ง กล่าวว่าเดิมได้แต่งงานกับนายอั้ง แต่หย่าร้างกัน ตนมีสามีใหม่และได้ไปอาศัยอยู่กับลูกที่ จ.ราชบุรี ไม่คิดว่านายอั้งจะมาตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในลักษณะนี้
Microsoft และคู่ค้าอาจได้รับค่าคอมมิชชันหากคุณซื้อบางสิ่งผ่านลิงก์ที่แนะนำในบทความนี้