ภูมิภาค
ชาวนาอำนาจเจริญ ไม่ท้อหาปลาขาย ฝ่าวิกฤติโควิด
วันพุธ ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2564, 15.38 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
วันที่ 27 ม.ค.64 จากข้อมูล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ รายงานว่า ผู้ป้วยรายใหม่ วันนี้ 0 ราย ผู้ป่วยระลอกใหม่ 4 ราย สะสม 4 ราย หายป่วย 4 ราย เสียชีวิต 0 ราย ผู้ที่เข้าเกณฑ์สงสัย(PUI) รายใหม่ 3 ราย รอผลตรวจ 3 ราย สะสม 196 ราย ผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและพื้นที่ควบคุม ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2563 – 26 มกราคม 2564 รายใหม่ 62 ราย สะสม 12,687 ราย และไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ติดต่อกัน 26 วันแล้วก็ตาม
ทว่า ชาวนาอำนาจเจริญ บางคน ยังคงฝ่าวิกฤติ โควิด 19 ด้วยการลงตาข่ายหาปลา หลังว่างเว้นจากการทำนาปลูกข้าว เพราะมีบ้านอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ จับปลาเป็นอาหาร ที่เหลือขาย พอได้เงินซื้ออยากซื้อกิน ดีกว่าอยู่เฉยๆ
ที่อ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน ต.โนนหนามแท่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ นายสมร แสงพงษ์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านห้วยสวรรค์ ต.โนนหนามแท่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ชาวนาผู้ไม่ชอบอยู่เฉยๆ เล่าว่า มีอาชีพทำนาปลูกข้าวมาตั้งแต่พ่อแม่ เมื่อพ่อแม่เสียชีวิต ได้รับมรดกเป็นที่นาจำนวน 8 ไร่ ไว้ให้ ทำนาปลูกข้าวทุกฤดูกาล ซึ่งชีวิตชาวนา ถ้าได้ยินเสียงฟ้าร้อง เมฆครึ้ม เต็มท้องฟ้า นั่นคือ สัญญาณเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ชาวนา ต่างดีใจ เพราะจะได้ทำนา จึงต้องเตรียมปรับที่นา ใส่ปุ๋ย รอฝนตก เป็นเช่นนี้ทุกปี
นายสมร แสงพงษ์ อายุ 62 ปี ชาวนาคนขยัน ระหว่างเก็บกู้ตาข่ายหาปลา เล่าต่อไปว่า การทำนาจะต้อง เฝ้าดูแลต้นข้าวอย่างดี อยู่หลายเดือน จนเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าว คัดข้าวบางส่วนใส่ยุ้งไว้กิน ที่เหลือขายให้พ่อค้าโรงสี พอได้เงินเป็นค่าแรงงานและใช้จ่ายอื่นๆ ที่ดีคือ มีข้าวกินไม่ต้องซื้อข้าวตลาดปีชนปี
นายสมร แสงพงษ์ อายุ 62 ปี ซึ่งยังต้องทำมาหากิน ช่วงว่างนา กล่าวว่า ก่อนนั้น บุตร 2 คน ทำงานที่กรุงเทพมหานคร ส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือน แต่ว่า โรคโควิด 19 ระบาด จึงต้องกลับมาอยู่บ้าน ไม่มีงานทำ ก็ต้องกินกับพ่อแม่ ทุกเช้าจึงต้องไปลงตาข่ายดักปลาที่ อ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน ช่วงนี้น้ำลดลงมาก จนเห็นตอไม้ผุดขึ้นเหนืออ่างเป็นจำนวนมาก และมีถ้ำปลาให้เห็นหลายแห่ง จึงต้องลงตาข่ายดักไว้ที่ปากถ้ำปลา จากนั้นจะใช้ไม้ยาวประมาณ 4 – 5 เมตร ที่ปลายไม้ผูกเหล็กทรงกลม เมื่อสั่นไม้ จะเกิดเสียงดัง เพื่อไล่ปลา เมื่อปลาได้ยินเสียงเหล็กกระทบกันเสียงดังสนั่นท้องน้ำ ปลาตกใจแตกตื่น ต่างแหวกว่าย ออกมาจากถ้ำ ทำให้ปลาติดตาข่ายเป็นจำนวนมาก จากนั้น จะเก็บกู้ตาข่าย ระหว่างเก็บกู้ จะปลดปลาออกจากตาข่าย ใส่ปลาลงในช่อง สำหรับใส่ปลา ที่ท้องเรือไปด้วย จนเต็ม จึงจะพายเรือ ไปไล่ปลาเข้าตาข่ายที่จุดวางตายข่ายต่อไป ซึ่งแต่ละวันจะวางตาข่ายดักปลา 5 – 6 จุด บางวัน จะวางตาข่ายนับ 10 จุด หากได้ปลาตามจำนวนที่ต้องการแล้ว จึงจะเก็บกู้ตาขาย และคัดเลือกปลาดีขาย ส่วนปลาที่เหลือจะเก็บไว้กิน โดยส่งขายที่ตลาดสดตัวเมืองอำนาจเจริญ ได้เงินวันละ 800 – 1,000 บาท แม้จำนวนเงินไม่มาก แต่มีค่าสำหรับชาวนา
นายสมร แสงพงษ์ อายุ 62 ปี ผู้รับมรดกทำนาจากพ่อแม่ กล่าวทิ้งท้ายว่า ก่อนนอน ไหว้พระสวดมนต์ อธิษฐาน ต่อหน้า พระพุทธรูป ทุกคืน ขอให้ประชาชนชาวไทย ผ่านพ้นวิกฤติ โควิด 19 ไปโดยเร็ว และปลอดภัยทุกคน
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่