เช้านี้อ่วมหนัก ค่าฝุ่น PM 2.5 ในเชียงใหม่ เกินมาตรฐานระดับสีแดง ติดอันดับ 2 เมืองใหญ่มีมลพิษมากที่สุดของโลก พบจุดความร้อนจากไฟป่าถึง 227 จุด
วันที่ 7 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ IQAir ที่คอยสังเกตการณ์คุณภาพอากาศของเมืองสำคัญทั่วโลก ได้จัดอันดับเมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุด และดีที่สุดในแต่ละวันแบบเรียลไทม์ รายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ในอันดับ 2 ของเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก มีค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ในระดับสีแดง วัดได้ 183 AQI US มีผลกระทบต่อทุกคน
ด้าน ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ รายงานจุดความร้อนจากไฟป่า พบมากถึง 227 จุด เพิ่มขึ้นกว่าหนึ่งเท่าตัวจากเมื่อวานนี้ที่พบ 97 จุด โดยไฟป่าวันนี้กระจายอยู่ใน 16 อำเภอ มากสุดที่อยู่ที่อำเภอเชียงดาวถึง 54 จุด แม้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าจะใช้ความพยายามอย่างหนัก ในการจำกัดแนวไฟ แต่พื้นที่ที่เข้าถึงยากลำบากยังเป็นอุปสรรค ไฟป่าที่ขยายวงกว้างในหลายอำเภอ ส่งผลให้กลุ่มควันปกคลุมไปทั่วทั้งจังหวัด ประชาชนต้องเผชิญกับอากาศที่ย่ำแย่
สำหรับ สภาพท้องฟ้าตัวเมืองเชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังคงถูกปกคลุม ไปด้วยหมอกควันไฟป่า ทัศนวิสัยการมองเห็นยังขุ่นมัว จนมองไม่เห็นดอยสุเทพอีกวัน ค่ามลพิษสูงเกินค่ามาตรฐานทุกสถานี ซึ่งจะมองเห็นกลุ่มควันไฟ ได้อย่างชัดเจนด้วยตาเปล่า เวลา 07.00 น. พื้นที่ตำบลสุเทพ พื้นที่ตำบลช้างเผือก พื้นที่ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง ค่า PM 2.5 อยู่ระหว่าง 84.3 ถึง 102.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และสูงสุดอยู่ที่ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 125.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ขณะที่ ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ณ เวลา 07:00 น. สรุปดังนี้
ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี จ.บึงกาฬ จ.หนองคาย จ.เลย จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.หนองบัวลำภู จ.สกลนคร จ.มุกดาหาร จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด จ.อำนาจเจริญ จ.ชัยภูมิ จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ จ.นครราชสีมา และ จ.สุรินทร์
- ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 43.9 – 196.1 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 37.2 – 136.0 มคก./ลบ.ม.
- ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐาน 6 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 23.2 – 46.4 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 15.7 – 31.5 มคก./ลบ.ม.
- ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 15.8 – 33.0 มคก./ลบ.ม.
- กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 16.2 – 33.4 มคก./ลบ.ม.
ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์ IQAir, ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ