วันพุธ ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 16.27 น.
กลุ่มข้าวอินทรีย์บ้านนาผาง หมู่ที่ 6 ตำบลห้วย อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ จักตั้งกลุ่มเมื่อวันที่ 12 ม.ค.2548 นายเดชา เย็นใจ เป็นประธานกลุ่มข้าวอินทรีย์บ้านนาผาง ปัจจุบันมีสมาชิก จำนวน 300 คน สมาชิกมีรายได้เฉลี่ย 2,000 บาท/คน/ครัวเรือน/เดือน อาชีพหลักทำนาปลูกข้าว อาชีพเสริมเลี้ยงโคและรับจ้างทั่วไป ซึ่งที่ผ่านได้มีการผลิตข้าวปลอดสารเคมีเพื่อสุขภาพ 4 ชนิด ได้แก่ 1. ข้าวกล้องงอก 2.ข้าวฮาง 3.ข้าวหอมมะลินิล 4.ข้าวหอมมะลิแดง บรรจุถุง ตรานาผาง ในราคาที่แตกต่างกัน จำหน่ายทั่วประเทศ โดยสำนักงานพัฒนาการจังหวัดอำนาจเจริญ คัดเลือกให้เป็นผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ระดับ 5 ดาว ประเภท อาหาร การันตีข้าวคุณภาพดีปลอดสารเคมีของจังหวัดอำนาจเจริญ
ทั้งนี้ ชาวบ้านนาผาง หมู่ที่ 6 ยึดอาชีพทำนาปลูกข้าวเป็นอาชีพหลัก ซึ่งปลูกทั้งข้าวเหนียวข้าวจ้าว ปีละ 2 ครั้ง คือนาปรังและนาปี เนื่องจากมีลำห้วยจานลาน ไหลผ่าน หลายคนปลูกพืชผักผสมผสานไปด้วย ที่น่าสนใจ การปลูกข้าวและปลูกพืชผักปลอดสารเคมีทั้งหมด เพราะที่ผ่านมา ได้มีการรณรงค์ส่งเสริมให้มีการปลูกข้าวอินทรีย์และปลูกผักไร้สารพิษอย่างต่อเนื่อง จนประสบความสำเร็จ
และที่ผ่านมา จะคาดหวังจากการทำนาปลูกข้าว ขายผลผลิตข้าวให้ได้เงินมาใช้จ่ายเป็นกอบเป็นกำคงจะยาก เพราะบางปีฝนตกไม่ดี นาแล้งผลผลิตข้าวได้น้อย พอมีข้าวไว้กินเท่านั้น ปีนี้ฝนตกดี ซึ่งอยู่ระหว่างรอเก็บเกี่ยว จึงนำข้าวเปลือกที่เหลืออยู่ในเล้าข้าว นำไปโรงสีข้าว ออกมาเป็นเมล็ดข้าว แปรรูป บรรจุใส่ถุงขาย 4 ชนิด ขายเพื่อเป็นทุน มาจ้างแรกงานเกี่ยวข้าว โดยการผลิตข้าวใส่ถุง คือ ข้าวกล้องงอก ข้างฮาง ข้าวหอมมะลินิลและข้าวหอมมะลิแดง โดยการนำเอาภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่พ่อแม่ได้บอกสอนมา ในการผลิตข้าวฮาง ข้าวกล้องงอก ข้าวหอมมะลิแดงและข้าวหอมมะลินิล ประกอบกับพื้นที่ทำนาปลูกข้าว เหมาะที่จะทำการปลูกข้าวหอมมะลิมาก ซึ่งข้าวหอมมะลิจากที่นี่ จะมีเมล็ดอวบอูม ขึ้นหม้อและหอมอร่อยชวนรับประทานมาก ข้าวหอมมะลิจากแหล่งผลิตอำนาจเจริญ จึงโด่งดังไปถึงไต้หวันและฮ่องกง ทุกปีจะมีพ่อค้ามาซื้อปีละหลายหมื่นตัน
นอกจากจะมีความรู้การผลิตมาจากบรรพบุรุษแล้วหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องยังได้เข้ามาอบรมแนะนำความรู้เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สมาชิกมีความรู้ คู่ภูมิปัญญา เรื่องการทำข้าวฮาง การมีคณะกรรมการที่เสียสละ ทุ่มเท เพื่อส่วนรวม มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา โปร่งใสและเป็นธรรม สมาชิกมีความรัก ความสามัคคี ร่วมมือ ร่วมใจกัน ปฏิบัติตามกฏระเบียบของกลุ่มและร่วมทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
สำหรับข้าว 4 ชนิด ที่ผลิตวางจำหน่าย มีประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภคที่แตกต่างกันดังนี้ 1.ข้าวฮาง เป็นข้าวกล้องชนิดหนึ่ง ที่ผลิตมาจากข้าวหอมมะลิ 105 เป็นข้าวเปลือกที่นึ่งสุกก่อนที่จะนำไปสี โดยประยุกต์กรรมวิธีการผลิต ข้าวฮาง จากภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยเฉพาะ ข้าวฮาง จะมีราข้าวและเส้นใยอาหารอยู่ในเมล็ดข้าวอย่างครบถ้วน เมื่อกะเทาะเปลือกออกคุณค่าทางอาหารจึงไม่สูญเสีย เนื่องจากผ่านการนึ่งสุกมาแล้ว ไม่มีเมล็ดแตกร้าว จะมีสีเหลืองตามธรรมชาติ เมล็ดข้าวสวยงาม ไม่แตกหัก ข้าวจะมีกลิ่นหอมมากกว่าข้าวทั่วไป และเมื่อนำไปหุงจะได้ข้าวสวยมีกลิ่นหอมชวนรับประทานมีคุณค่างทางโภชนาการของข้าวครบถ้วน ส่วนการจำหน่าย บรรจุถุง 1 กก.ๆละ 50 บาท
2.ข้าวกล้องงอก นับว่ามีประโยชน์มากกว่าข้าวกล้อง เนื่องจากมีสารกาบา(GABA) ของกรดกลุตามิก สารกาบามีบทบาทสำคัญในการเป็นสารสื่อประสาท มีประโยชน์ในการรักษาโรควิตกกังวล นอนไม่หลับ โรคลมชัก โรคมะเร็ง โรงเบาหวาน ช่วยควบคุมน้ำหนักตัว ทั้งนี้คุณประโยชน์ของสารต่างๆในข้าวกล้องงอก มีดังนี้ 1. สารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มดิโนลิค(phenolic compounds) ช่วยยับยั้งการเกิดฟ้า ชะลอความแก่ 2.สารออริซานอล(oriznal) ลดการผิดปกติของวัยทอง 3.สารกาบา(GABA) ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์หรือโรคสูญเสียความทรงจำ ช่วยผ่อนคลายทำจิตใจสงบหลับสบาย ลดความเครียดวิตกกังวล ลดความดันโลหิต 4.ใยอาหาร(Food fiber)ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันมะเร็งลำไส้ 5.วิตามินอี (vitamin E) ลดการเหี่ยวย่นของผิว ส่วนการจำหน่าย บรรจุถุง 1 กก.ๆละ 60 บาท
3. ข้าวหอมมะลินิล เป็นข้าวหอมมะลิพันธุ์ใหม่ ที่เป็นลูกผสมระหว่าง ข้าวหอมมะลิสีนิลกับข้าวหอมมะลิ 105 ข้างสายพันธุ์ใหม่ที่ได้จะมีเมล็ดยาว สีม่วงเข้ม และมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อนำไปหุงข้าวจะได้ข้าวสวยสีม่วงอ่อน ที่นุ่มและหอมมาก ข้าวหอมมะลิสีนิล มีโปรตีนเป็น 2 เท่าของข้าวหอมมะลิ 105 ประกอบไปด้วยสารอาหารมากมาย อาทิ เช่น เหล็ก สังกะสี ทองแดง โปรแตสเซี่ยม แคลเซี่ยมและวิตตามินบี หลายชนิดในสารสีม่วงของข้าวหอมมะลิสีนิล มีสารประกอบที่สำคัญคือ แอนโทไซยานิน ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบของเนื้อเยื่อ ช่วยลดการอุดตันของไขมันในเส้นเลือด ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ป้องกันมะเร็งทรวงอก มะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งเม็ดเลือดขาว ซึ่งบรรจุถุง 1 กก. จำหน่ายถุงละ 70 บาท
4.ข้าวหอมมะลิแดง สำหรับข้าวแดง มีชื่อเสียงโด่งดังมากในหมู่คนรักสุขภาพ ด้วยรสชาติที่หอมอร่อยเหมือนข้าวหอมมะลิพร้อมทั้งมีคุณสมบัติที่ดีทางโภชนาการและสีสันที่ดูสวยงาม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ เพราะกิตติศัพท์ของข้าวหอมมะลิแดงนั้น โจษจันกันว่า มีศักยภาพในการป้องกันและบรรเทาโรคเบาหวานได้ดีมาก ส่วนรูปลักษณ์ข้าวหอมแดงหรือข้าวหอมมะลิแดง เป็นข้าวจ้าวไวต่อช่วงแสง เป็นข้าวนาน้ำฝนหรือข้าวนาปี มีลำต้นแข็งแรง ใบเกลี้ยง สีเขียวอ่อน กาบใบมีสีเขียว ระยะเวลาการเก็บเกี่ยว 125 -130 วัน เมล็ดข้าว มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดงเข้ม ข้าวสุกนุ่มเหนียวและมีกลิ่นหอมเหมือนข้าวขาวดอกมะลิ 105 ซึ่งบรรจุถุง 1 กก . จำหน่ายถุงละ 60 บาท
สำหรับคุณค่าทางโภชนาการ มีประโยชน์มากกว่าข้าวเจ้าทั่วไป เพราะมีสารอาหารจำพวกแป้ง ไขมัน โปรตีน ฟอสฟอรัสและธาตุเหล็กในปริมาณสูง ข้าวหอมมะลิแดงในปริมาณ 100 กรัม มีธาตุเหล็กถึง 1.2 มิลลิกรัม ขณะเดียวกันก็มีทั้งวิตามิน เอ บีและซี พร้อมทั้งมีคุณสมบัติรักษาโรคได้หลากหลาย เช่น โรคหัวใจ แขนขาไม่มีกำลังวังชา นอนไม่หลับ รักษาอาการมือเท้าบวม มีผื่นขึ้น ระบบย่อยอาหารไม่ปกติ มีลมในท้องและลำไส้ ทั้งนี้ผลทดสอบพบว่า ข้าวหอมมะลิแดงที่หุงสุกแล้ว จะมีมิโลส ร้อยละ 16.9 และการเพิ่มขึ้นของน้ำตาลกลูโคสช่วงเวลา 20 นาทีแรกค่อนข้างช้า แสดงให้เห็นว่า ข้าวหอมมะลิแดงน่าจะเป็นข้าวพื้นเมืองที่มีดัชนีน้ำตาลที่เหมาะสมกับการส่งเสริมให้ผู้บริโภคที่อยู่ในภาวะปกติหรือป่วยเบาหวานรับประทาน ข้าวหอมมะลิแดง จึงมีศักยภาพในการป้องกันและบรรเทาโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี