เจาะพฤติการณ์

เขียนวันที่

“…มีข้อมูลว่าในขั้นตอนการไต่สวนคดีของ ป.ป.ช. นางสมหญิง ได้ชี้แจงความบริสุทธิ์ ยืนยันว่าไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา ในคำชี้แจงบางส่วนระบุว่า เพิ่งเป็น ส.ส.สมัยแรก ยังไม่มีความชำนาญในด้านการอภิปราย ไม่มีความรู้เรื่องการจัดสรรงบประมาณด้วย และไม่รู้จักผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ด้วย อย่างไรก็ดี  ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่าคำชี้แจงของ นางสมหญิง ยังไม่มีน้ำหนักรับฟังได้…”

ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก กรณี นางสมหญิง บัวบุตร ส.ส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดอำนาจเจริญ และพวกรวมจำนวน 28 ราย ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญาในคดีทุจริตสนามฟุตซอลโรงเรียนในจังหวัดอำนาจเจริญ และมีการส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ฟ้องร้องตามขั้นตอนทางกฎหมายแล้ว

ซึ่งนางสมหญิง บัวบุตร มีกำหนดการเข้าพบเพื่อรายงานตัวต่อพนักงานอัยการส่งฟ้องคดี ในวันที่ 22 กันยายน 2565 นี้ จากกำหนดการเดิม เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา

หลังจากที่ นางสมหญิง ทำหนังสือแจ้งขออนุญาต โดยอ้างเหตุผลว่า อยู่ระหว่างสมัยประชุมสามัญสภาผู้แทนราษฏร มีภารกิจต้องเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร การประชุมร่วมกันของรัฐสภา และการประชุมของคณะกรรมาธิการสามัญและกรรมาธิการวิสามัญ จึงมีเหตุจำเป็นที่ไม่อาจมารายงานตัวในวันที่ 8 กันยายน 2565 ได้

• ผู้ถูกกล่าวหากลุ่มเดียว ‘วิรัช’ ! ป.ป.ช.ซุ่มเงียบฟัน สมหญิง บัวบุตร คดีฟุตซอลอำนาจเจริญ
• อ้างติดประชุมส.ส.! อัยการอนุญาต ‘สมหญิง’ รายงานตัวฟ้องศาลคดีฟุตซอลอำนาจเจริญ 22 ก.ย.นี้
• เช็กชื่อที่นี่! ใครโดนบ้าง ป.ป.ช.ชี้มูลอาญา-วินัย ‘สมหญิง’-พวก 27 คน คดีฟุตซอลอำนาจเจริญ

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบข้อมูลเป็นทางการเกี่ยวกับพฤติการณ์การกระทำความผิดในคดีนี้ของ นางสมหญิง บัวบุตร และพวก

ปรากฏรายละเอียดสำคัญดังต่อไปนี้ 

@ จุดเริ่มต้นคดี

จุดเริ่มต้นคดีนี้ มาจากการที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่าย งบประมาณปี พ.ศ. 2555 (งบแปรญัตติ) แผนงานขยายโอกาสและพัฒนาการศึกษาผลผลิตผู้จบการศึกษาภาคบังคับ กิจกรรมการก่อสร้าง ปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารเรียน และสิ่งก่อสร้างประกอบสำหรับโรงเรียนปกติ งบลงทุน (ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง) รายการค่าก่อสร้างปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารเรียนอาคารประกอบและสิ่งก่อสร้างอื่นที่ชำรุดทรุดโทรมและที่ประสบอุบัติภัยให้กับโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

โดยจัดสรรให้แห่งละ 5,000,000 บาท และ 2,500,000 บาทแล้วแต่กรณี ให้โรงเรียนที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ เป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง

ขณะที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแต่ละเขตเป็นหน่วยเบิกจ่ายเงิน มีการกำหนดให้แต่ละโรงเรียนดำเนินการก่อสร้างสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์ (สนามฟุตซอล) ขึ้นใหม่ โดยใช้แบบรูปรายการก่อสร้างที่จัดทำขึ้นเองมิใช่แบบมาตรฐานการก่อสร้างของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)

ถือเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการบริหารงบประมาณที่จัดสรรให้ 

ผลการดำเนินการจัดจ้างโรงเรียนหลายแห่งมีผู้รับจ้างเป็นรายเดียวกันและหรือผู้ประกอบการกลุ่มเดียวกัน ซึ่งกลุ่มผู้เสนอราคามีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนดในการประกวดราคาและมีพฤติการณ์เข้ามายื่นซองประกวดราคาหมุนเวียนเป็นคู่เปรียบเทียบราคากันในการประกวดราคาคราวเดียวกัน และยังมีการปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมหลายรายการในการเสนอราคา อันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม

อีกทั้งกลุ่มผู้ยื่นเสนอราคาได้ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารหนังสือจากบริษัทที่ผลิตหรือจำหน่ายเป็นรายเดียวกันและเป็นเอกสารฉบับเดียวกันที่มีเลขหนังสือและวันที่เดียวกันในการยื่นเสนอราคา

มีบริษัทผู้ผลิตหรือจำหน่ายเป็นรายเดียวกันได้มีการแต่งตั้งกลุ่มผู้เสนอราคาเป็นตัวแทนจำหน่ายของบริษัทในการเสนอราคาครั้งเดียวกัน และกลุ่มผู้สนอราคาได้ร่วมกันใช้หรืออ้างหนังสือหรือเอกสารการรับรองและคุณสมบัติของแผ่นยางสังเคราะห์ EVA เพื่อติดตั้งเป็นพื้นสนามกีฬาจากหน่วยงานราชการที่ออกหรือรับรองให้กับบริษัท สปอร์ต แอนด์ เกม จำกัด ผู้ผลิตหรือจำหน่าย ซึ่งเป็นเอกสารฉบับเดียวกันที่มีเลขหนังสือและวันที่เดียวกันในการยื่นเสนราคา

ส่วนการก่อสร้างสนามกีฬาไม่ได้มาตรฐาน มีการนำวัสดุแผ่นยางสังเคราะห์ซึ่งเหมาะสำหรับสนามในร่มมาใช้ในสนามกลางแจ้ง จึงทำให้ไม่สามารถใช้งานได้และไม่มีความทนทาน ทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ

@ สตง.สาวลึกข้อมูลฮั้ว 

ขณะที่แหล่งข่าวจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า ในการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์ ของโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ จำนวน 15 แห่ง ตามปีงบประมาณ 2555 งบแปรญัตติ)

พบว่ามีผู้รับจ้างรายเดียว จำนวนหลายโรงเรียน และมีกลุ่มผู้เสนอราคา จำนวน 3 ราย เป็นคู่เทียบ

โดยโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ จำนวน 15 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนเมืองอำนาจเจริญ โรงเรียนอนุบาลอำนาจเจริญ โรงเรียนสร้างนกทาวิทยาคม โรงเรียนอำนาจเจริญ โรงเรียนชุมชนบ้านน้ำปลีก โรงเรียนนาผือโคกกอก และโรงเรียนบ้านป่าติ้ว อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ โรงเรียนหัวตะพาน โรงเรียนอนุบาลหัวตะพาน โรงเรียนบ้านโคกเลาะ โรงเรียนชุมชนบ้านคำพระ โรงเรียนบ้านเวียงหลวง โรงเรียนบ้านหนองแคน โรงเรียนบ้านสร้างถ่อ และโรงเรียนศรีเจริญศึกษา

ทั้ง 15 แห่ง ได้รับจัดสรรงบประมาณเป็นค่าปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์งบประมาณรวมเป็นเงิน 60,000,000 บาท แบ่งเป็นงบประมาณโรงเรียนละ 5,000,000.- บาท จำนวน 9 แห่ง งบประมาณ โรงเรียนละ 2,500,000 บาท จำนวน 6 แห่ง

สตง. ตรวจสอบพบว่า โรงเรียนทั้ง15 แห่ง ได้ใช้วัสดุ แผ่นยางสังเคราะห์ EVA ประกอบเข้าด้วยกันคล้ายตัวต่อจิ๊กซอว์ เพื่อทำการติดตั้งเป็นพื้นสนามกีฬากลางแจ้งได้แก่ ฟุตบอล วอลเลย์บอล และตะกร้อ โดยใช้รูปแบบรายการก่อสร้างที่จัดทำขึ้นเองมิใช่แบบมาตรฐานก่อสร้างของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)

ส่วนผลดำเนินการจัดจ้างโดยวิธีประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-auction) โรงเรียนหลายแห่งมีผู้รับจ้างเป็นรายเดียวกันและหรือผู้ประกอบการกลุ่มเดียวกัน คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จี โอ โอ ดี จำนวน 6 แห่ง บริษัท ที วี เอ็น เทคโนโลยี จำกัด จำนวน 5 แห่ง บริษัท พี.อาร์.เอ็น.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำนวน 1 แห่ง ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการที่ยื่นเสนอราคาจำนวน 4 ราย คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จี โอ โอ ดี บริษัท ที วี เอ็น เทคโนโลยี จำกัด บริษัท พี.อาร์.เอ็น. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท วาย อี อี จำกัด  มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนดในการประกวดราคา และมีพฤติการณ์เข้ามายื่นซองประกวดราคาหมุนเวียนเปรียบเทียบ ราคากันในการประกวดราคาในคราวเดียวกัน กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม

ที่สำคัญคือปลอมเอกสาร และใช้อกสารปลอมหลายรายการในการเสนอราคา

กล่าวคือในขณะเสนอราคาผู้เสนอราคา 4 ราย ข้างต้นได้ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารหนังสือจากบริษัทผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายเป็นรายเดียวกัน และเป็นเอกสารฉบับเดียวกันที่มีเลขที่หนังสือและวันที่เดียวกัน ในการยื่นเสนอราคากับโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ จำนวน 15 แห่ง ในคราวเดียวกัน

@ สมหญิง บัวบุตร 

@ พฤติการณ์ “สมหญิง บัวบุตร”

ในส่วนพฤติการณ์การกระทำความผิดของ นางสมหญิง ในคดีนี้ นั้น

ถูกระบุว่า เป็นผู้กำหนดชื่อโรงเรียนในเขตพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญเพื่อให้ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 15 แห่ง แล้วให้นักการเมืองรายหนึ่ง ไปส่งมอบผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานดำเนินการจัดสรรงบประมาณให้

โดยทั้ง 15 โรงเรียน ล้วนตั้งอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ที่ นางสมหญิง ได้รับการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ มีข้อมูลว่าในขั้นตอนการไต่สวนคดีของ ป.ป.ช. นางสมหญิง ได้ชี้แจงความบริสุทธิ์ ยืนยันว่าไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา ในคำชี้แจงบางส่วนระบุว่า เพิ่งเป็น ส.ส.สมัยแรก ยังไม่มีความชำนาญในด้านการอภิปราย ไม่มีความรู้เรื่องการจัดสรรงบประมาณด้วย และไม่รู้จักผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ด้วย 

อย่างไรก็ดี  ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่าคำชี้แจงของ นางสมหญิง ยังไม่มีน้ำหนักรับฟังได้

จึงนำมาสู่การชี้มูลความผิดทางอาญา พร้อมยื่นเรื่องฟ้องศาลฯ ดังกล่าว

ทั้งหมดนี่ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับพฤติการณ์การกระทำความผิดในคดีนี้ของ นางสมหญิง บัวบุตร และพวก ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบล่าสุด  

ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้ว่า การชี้มูลความผิดในชั้น ป.ป.ช. เป็นเพียงกระบวนการขั้นต้น ยังเหลือในชั้นอัยการ และชั้นศาล คดียังไม่ถือว่าสิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหาจึงถือว่าบริสุทธิ์อยู่  

ส่วนรายละเอียดอื่นๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดตามตรวจสอบมานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป