วันศุกร์ ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
สำนักงานเกษตร จ.อำนาจเจริญ แจ้งเตือนเกษตรกร เรื่องโรคไหม้ข้าวในแปลงนา โดยระบุว่า เกษตรกรต้องหมั่นสำรวจแปลงนาสม่ำเสมอ โดยเฉพาะแปลงนาที่ปลูกข้าว กข 6 และข้าวขาวดอกมะลิ 105 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมาก แต่มักจะอ่อนแอและไม่ต้านทานโรคไหม้ ถึงแม้จะเคยได้รับการพัฒนาพันธุ์ให้มีความต้านทานแล้วก็ตาม โรคไหม้คอข้าวจากเชื้อรา PYRICULARIA GRISEASACC เชื้อเข้าทำลายได้ทุกส่วนของข้าว ตั้งแต่ระยะต้นกล้าถึงออกรวง โดยพบว่า เชื้อจะทำลายที่ใบและรวงมากที่สุด เมื่อเชื้อเข้าทำลายที่ใบ ทำให้ใบเป็นจุดฉ่ำน้ำแผลจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล คล้ายรูปตา หากทำลายมากๆ ใบจะไหม้ คล้ายถูกน้ำร้อนลวกและแห้งตายอย่างรวดเร็ว ซึ่งเรียกว่า โรคใบไหม้ และหากเชื้อเข้าทำลายข้าวในระยะออกรวงจะทำลายที่คอรวงแห้งตาย เมล็ดข้าวลีบ เรียกว่า โรคไหม้คอรวง
โรคไหม้ข้าวนี้ มักมีการระบาดทุกปี และพบในแปลงนาที่มีต้นข้าวหนาแน่นหรือแปลงที่ใส่ปุ๋ยยูเรีย แอมโมเนียซัลเฟต ปุ๋ยมูลไก่ในปริมาณมาก จะทำให้ข้าวอวบ อ้วนเกินไป จึงเกิดโรคได้ง่าย และแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว และจะพบการระบาดมากในนาหว่าน ส่วนนาดำจะไม่พบการระบาด ซึ่งปัจจุบัน เกษตรกรนิยมปลูกข้าวนาหว่านมากกว่านาดำ เพราะ รวดเร็ว ทันฝน
ดังนั้น เพื่อป้องกันการเกิดโรคดังกล่าว เกษตรกรต้องหมั่นตรวจแปลงนาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสังเกตสุขภาพข้าว/กล้า ทำแปลงให้สะอาด อากาศปลอดโปร่ง การระบายถ่ายเทสะดวก บำรุงรักษาต้นข้าว/กล้าให้แข็งแรง ไม่อวบอ้วนจนเกินไป ลดหรืออย่าใส่ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจน หากพบการระบาดของโรคให้แจ้ง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรประจำตำบล(เกษตรตำบล) ได้ช่วยสำรวจประเมินความรุนแรงของโรค ถึงระดับที่จะต้องใช้สารเคมี ควรแจ้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้แทนชุมชน เพื่อขอสนับสนุนช่วยเหลือด้านสารเคมี กำจัดโรคไหม้ข้าว จาก อบต. หรือเทศบาลต่อไป
ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายประพันธ์ สุขทะใจ ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น